ท่าฝึกความแข็งแรงนักวิ่ง 360 องศา
Posted on March 28, 2016
by joylyrunning
Leave a Comment
ท่าฝึกความแข็งแรงนักวิ่ง 360 องศา เป็นโปรแกรมการออกกำลังเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายทั้งตัวสำหรับนักวิ่งที่ชื่นชอบการออกกำลังข้างนอกบ้าน หรือนักวิ่งที่ชอบใช้ห้องนั่งเล่นของตนเองเป็นห้องยกน้ำหนัก ดีไปกว่านั้น แอนจี้ สจ๊วต (Angie Stewart) ผู้กระตุ้นการออกกำลัง และครูสอนโยคะสำหรับนักวิ่งได้ออกแบบท่าออกกำลังกายที่ทำเสร็จได้ใน 12 นาที และพุ่งเป้าไปที่กล้ามเนื้อที่นักวิ่งต้องใช้ทุกมัดเพื่อความแข็งแรงและการทรงตัวตามที่จะกล่าวถึงต่อไปค่ะ เพื่อนๆสามารถติดตามท่าออกกำลังกายของแอนจี้เพิ่มเติมได้ที่ angiestewartfitness.com นะคะ
โปรแกรมนี้มีกฎ 5 ข้อ คือ
- ทำแต่ละท่าเรียงต่อกันไป ใช้เวลาท่าละ 1 นาที
- ท่าไหนที่ต้องออกกำลังทั้ง 2 ข้าง ให้ทำข้างละ 30 วินาที
- ทำจำนวนครั้งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยังคงรักษาฟอร์มของท่าไว้ได้อย่างถูกต้อง (อย่าโกงด้วยการเปลี่ยนฟอร์มการเคลื่อนไหวเพื่อให้ได้จำนวนครั้งมากขึ้นนะคะ)
- บันทึกจำนวนครั้งที่ทำซ้ำเอาไว้ได้ เพื่อดูความก้าวหน้า
- เพื่อการออกกำลังที่หนักขึ้น ให้ทำทั้งหมดซ้ำอีก 1 รอบ (ทำมากที่สุดได้ 3 รอบ)
ระดับความชำนาญ: เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับ
ท่าที่ 1 แพลงค์หนอน (Inchworm Plank)

ท่านี้ช่วยปลุกกล้ามเนื้อให้ตื่น และช่วยทั้งเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น และถ้าเพื่อนๆมีความยืดหยุ่นไม่ดี เพื่อนๆสามารถงอเข่าได้เล็กน้อยขณะออกกำลังค่ะ
- เริ่มต้นด้วยท่ายืน ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับท่าออกกำลัง ทำให้ฟอร์มดีที่สุดด้วยความเร็วที่มากที่สุด
- ค่อยๆก้มตัวลงมาข้างหน้า ทิ้งมือลงไปแตะพื้น
- รักษาขาให้ตรง (งอเข่าได้เล็กน้อยหากจำเป็น) แล้วจึงเดินมือไปทางด้านหน้าจนอยู่ในท่าแพลงค์
- ดันพื้น 1 ครั้ง แล้วจึงเดินมือกลับมาที่เท้า และลุกขึ้นยืนกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำตั้งแต่ข้อ 1
ท่าที่ 2 ย่อ-ดัน-ปีน (Squat-Thrust Climber)

ท่านี้เป็นท่าออกกำลังที่ดีที่สุดสำหรับกล้ามเนื้อก้น (Gluteus) กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadriceps) และกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstrings)
- ยืนเท้าชิดกัน แขนวางข้างตัว
- ย่อเข่าลงนั่งยองๆ ให้เข่าชิดกันตลอดเวลา วางฝ่ามือราบบนพื้น ความกว้างระดับหัวไหล่
- แขม่วท้องให้แน่น แล้วกระโดดถอยขาไปด้านหลังให้อยู่ในท่าแพลงค์
- วิ่งสลับขา 5 วินาที ดึงให้เข่ามาอยู่ใต้หน้าอก และกดให้สะโพกต่ำไว้ แล้วจึงกระโดดดึงขามาทางด้านหน้าให้อยู่ในท่านั่งยองๆอีกครั้ง ลุกขึ้นยืน และทำซ้ำตั้งแต่ข้อ 1
ท่าที่ 3 ถอนสายบัวและย่อกระโดด (Curtsy Lunge Hop)

ท่านี้เป็นท่าที่ดีที่สุดที่จะเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อน่อง ดังนั้นนักวิ่งต้องทำนะคะ นอกจากนี้ยังเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อกางข้อสะโพก (Hip Abductor) กล้ามเนื้อก้น (Gluteus) กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadriceps) และกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstrings) ด้วยค่ะ
- ยืนตัวตรง เท้าห่างระดับข้อสะโพก แขนวางข้างตัว
- ก้าวขาขวาไปข้างหลัง ไขว้เฉียงไปทางสะโพกซ้าย ทิ้งเข่าขวาลง และงอเข่าซ้ายในเวลาเดียวกัน
- ยกเข่าขวาขึ้นทางด้านบน ในขณะที่เด้งตัวขึ้นจากพื้นด้วยขาซ้าย และยกข้อศอกซ้ายขึ้น โดยแกว่งแขนซ้ายมาด้านหน้าและด้านบน ทำซ้ำข้างเดิม 30 วินาที แล้วค่อยสลับข้างอีก 30 วินาที
ท่าที่ 4 แมงป่องนักสู้ (Scorpion Fighter)

ท่านี้เป็นการฝึกความแข็งแรงของหัวไหล่ และกล้ามเนื้อลำตัว ในขณะที่ยืดกล้ามเนื้อหน้าท้องแนวเฉียง (Oblique) และกล้ามเนื้องอข้อสะโพก (Hip flexor) ค่ะ
- เริ่มต้นด้วยท่ายันพื้น โดยให้ปลายเท้าวางอยู่บนม้านั่งหรือเก้าอี้
- ดึงหัวเข่าซ้ายลงมาข้างล่างลำตัว พุ่งไปหาหัวไหล่ขวา
- ทำกลับทิศทางกัน โดยบิดสะโพกไปทางซ้าย และไปทางด้านหลังลำตัว ดึงเท้าซ้ายไปทางไหล่ขวา ทำซ้ำเป็นเวลา 30 วินาที แล้วจึงสลับข้าง
ท่าที่ 5 แพลงค์ข้างและยกขา (Sidewinder Plank with Leg Lift)

ท่านี้ออกกำลังกล้ามเนื้อกางสะโพก (Hip abductor) และเพิ่มความมั่นคงของลำตัว และยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องแนวเฉียง (Oblique) กล้ามเนื้อหลัง กล้ามเนื้อก้น (Glute) กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadriceps) และกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstrings) ด้วยค่ะ
- เริ่มต้นด้วยท่าแพลงค์ ศอกเหยียด แขนตรง
- หมุนตัวไปด้านข้าง ทรงตัวบนส้นเท้าขวา และแขนขวา ให้ข้อมืออยู่ใต้หัวไหล่ แล้วจึงยกแขนซ้ายขึ้นตรง
- ยกขาซ้ายขึ้น และลง รักษาสะโพกให้นิ่ง ทำซ้ำ 30 วินาที แล้วจึงเปลี่ยนข้าง
ท่าที่ 6 แพลงค์ดันพื้น (Plank Pups)

ท่านี้จะช่วยเบิร์นกล้ามเนื้อหัวไหล่ แขน หลัง และกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวค่ะ
- ท่าเริ่มต้นอยู่ที่ท่าดันพื้น แขนเหยียดตรง
- งอศอกขวาวางศอกลงบนพื้น ทิ้งน้ำหนักตัวไว้ที่แขนส่วนล่าง
- งอศอกซ้ายวางศอกลงบนพื้น ทิ้งน้ำหนักตัวไว้ที่แขนส่วนล่าง
- ยกศอกขวาขึ้น วางมือลงบนพื้น และทำเหมือนกันกับศอกซ้ายและมือซ้าย
- ดันตัวขึ้นกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 30 วินาที ส่วนอีก 30 วินาทีให้ทำซ้ำโดยให้แขนซ้ายงอลงก่อน
ท่าที่ 7 ฝึกความเร็วนักวิ่งด้านข้าง (Lateral Speed Runner)

ท่านี้ออกกำลังกล้ามเนื้อกางข้อสะโพก (Hip abductor) และกล้ามเนื้อหุบข้อสะโพก (Hip adductor) รวมถึงกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวค่ะ
- ยืนกางขากว้างเท่าระดับหัวไหล่ แขนวางแนบข้างตัว
- กระโดดไปทางขวา วางเท้าขวาบนพื้นในขณะที่ทรงตัวไว้โดยยกขาซ้ายไปข้างหลังขาขวา ในขณะเดียวกัน แกว่งแขนซ้ายไปข้างหน้า และแกว่งแขนขวาไปข้างหลังในท่าของนักวิ่ง
- ทำซ้ำกับขาอีกข้าง ให้ตั้งสมาธิกับความเร็วและการควบคุมลำตัวและการทรงตัว
ท่าที่ 8 ที่ปัดน้ำฝน (Windshield Wipers)

ท่านี้ออกกำลังกล้ามเนื้อท้องเต็มช่วง และช่วยเพิ่มความมั่นคงได้อย่างยอดเยี่ยมค่ะ
- นอนหงาย กางแขนระดับหัวไหล่ คว่ำมือ ต้นขาตั้งฉากกับพื้น เข่างอ 90 องศา
- รักษาให้สะโพก และเข่างอไว้ แกว่งขาไปทางด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย รักษาให้หลังส่วนบนยังแนบติดกับพื้นตลอดเวลา
- ดึงขากลับมาที่ตรงกลาง แล้วจึงทำซ้ำอีกข้างหนึ่ง
ท่าที่ 9 แพลงค์บิดตัว (Plank Rotation)

ท่านี้เป็นท่าที่ดัดแปลงมาจากท่าแพลงค์ปกติ ช่วยฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และกล้ามเนื้อหัวไหล่ด้วยค่ะ
- เริ่มต้นด้วยท่าแพลงค์บนข้อศอก ยกเว้นปลายแขนซ้อนกันตามแนวขวาง
- หมุนตัวไปทางด้านซ้าย ข้อศอกอยู่ข้างใต้หัวไหล่ วางมือขวาบนสะโพกขวา วางเท้าซ้อนกัน ลำตัวตรง หมุนตัวกลับไปตรงกลาง ทำซ้ำกับข้างขวา
ท่าที่ 10 แตะพื้นขาเดียว (Single-Leg Deadlift)

ท่านี้เป็นท่าฝึกการทรงตัวและความมั่นคงที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งดีมากต่อกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว กล้ามเนื้อก้น และกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังค่ะ
- เริ่มต้นด้วยท่ายืนตรง แขนแนบลำตัว
- รักษาหลังให้ตรง ก้มตัวไปด้านหน้าโดยพับที่ข้อสะโพกในขณะที่ยกขาข้างหนึ่งตรงไปทางด้านหลัง (ให้เป็นแนวเดียวกับกระดูกสันหลัง) และเอื้อมมือสองข้างไปที่พื้น ย้อนกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำจนครบ 30 วินาที แล้วจึงสลับข้าง
ท่าที่ 11 ยกสะโพกย่ำเท้า (Marching Bridge)

ท่านี้ดีสำหรับกล้ามเนื้อสะโพก และยังคงดีต่อกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างด้วยค่ะ
- นอนหงาย งอเข่าสองข้าง วางเท้าห่างกันระดับหัวไหล่
- ยกสะโพกขึ้นเข้าสู่ท่าสะพานตรง
- ยกขาขึ้น ดึงเข่าไปทางหน้าอกทีละข้าง รักษาหลังให้ตรง
ท่าที่ 12 ซุปเปอร์แพลงค์ (Supergirl/Superman Plank)

ท่านี้เป็นท่าที่ใช้จบการฝึกซึ่งเป็นความท้าทายที่ยากต่อกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว กล้ามเนื้อหัวไหล่ และกล้ามเนื้อหลังค่ะ
- เริ่มต้นด้วยท่าดันพื้น แขนเหยียดตรง
- เหยียดแขนขวาไปทางด้านหน้าขณะที่ยกขาซ้ายไปทางด้านหลัง ทรงท่านี้ไว้ 3 วินาที
- หลังจากที่นำมือและแขนกลับมาสู่ท่าเริ่มต้น ให้ทำซ้ำกับอีกข้างหนึ่ง (หากต้องการดัดแปลงให้ง่ายขึ้น ให้ทำในท่าเริ่มต้นเป็นท่าคลาน ให้มือและเข่าติดพื้นค่ะ)
เอาล่ะค่ะ หมดแล้วนะคะสำหรับท่าฝึกความแข็งแรงนักวิ่ง 360 องศา ลองนำทั้ง 12 ท่าต่อเนื่องกันดูนะคะ ใช้เวลารวมต่อเซท 12 นาทีเท่านั้นค่ะ ทำไหวแค่เซทเดียว ก็เริ่มที่เซทเดียวนะคะ แล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนครั้งในแต่ละท่า และสุดท้ายเพิ่มจำนวนเซทนะคะ
ขอให้เพื่อนนักวิ่งได้ประโยชน์จากท่าฝึกความแข็งแรงนักวิ่ง 360 องศากันนะคะ
แปลและเรียบเรียงจากหนังสือ
Build Your Running Body: A Total-Body Fitness Plan for All Distance Runners, from Milers to Ultramarathoners-Run Farther, Faster, and Injury-Free
เขียนโดย Pete Magill, Thomas Schwartz, Melissa Brayer
ปี 2014
Like this:
Like Loading...
Recent Comments