JoylyRunning
Explore the Knowledge for Runner
วิ่งครบ 2 ปี เริ่มมีพัฒนาการนะนี่
เข้าปีที่ 2 ของการวิ่ง ได้เจองานสนุกบ้าง แปลกบ้าง แย่บ้าง แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีทั้งหมด แถมทำเวลาได้ดีขึ้นด้วย ลองมาดูความเห็นเรากับแต่ละงานกันนะคะ (แค่ความเห็นเราคนเดียวนะ คนอื่นอาจเห็นต่างได้ค่ะ)
1. (11 พ.ค. 2558) สถาบันจิตวิทยาความมั่นคงมินิมาราธอน ครั้งที่ 1
10.97 km, time 1.06.48, 6.05 min/km
สนามกีฬากองทัพบก
ช่วงนั้นหางานวิ่งให้ไม่คิดฟุ้งซ่าน เพราะเพิ่งเสียคุณพ่อไปอย่างปัจจุบันทันด่วน นอกจากใช้ธรรมะของพระพุทธเจ้าช่วยแล้ว ยังพบว่าการวิ่งก็ช่วยทำให้จิตใจเราสงบได้เช่นกัน เพราะเป็นการทำสมาธิไปในตัว เลือกงานนี้เพราะใกล้บ้าน เป็นครั้งแรกที่ลืมเอา BIB ติดตัวมาด้วย ดีว่าใกล้บ้าน เลยกลับไปเอามาได้ ชอบเส้นทางค่ะ วิ่งพหลโยธิน ไปอนุสาวรีย์ กลับมาทางวิภาวดี ปิดถนนดีมากค่ะ ประทับใจ
2. (17 พ.ค. 2558) มูลนิธิราชสุดา-บิ๊กซี เดิน-วิ่ง มินิมาราธอน ปีที่ 2
9.67 km, time 1.01.59, 6.25 min/km
บิ๊กซีพระราม 4
ขอยกให้เป็นงานยอดแย่แห่ง 2 ปีที่วิ่งมาเลยล่ะค่ะ เรียกว่าเอาชีวิตไปเสี่ยงกันเลยทีเดียว เส้นทางวิ่งง่ายๆค่ะ ออกจากบิ๊กซีพระราม 4 ออกมาถนนพระราม 4 กลับตัวโรงพยาบาลเทพธารินทร์ วิ่งตรง กลับตัวอีกรอบที่สามย่าน แล้ววิ่งตรงกลับมาบิ๊กซี ดูเหมือนง่ายนะคะ แต่ไม่ง่ายค่ะ เพราะต้องวิ่งชิดขวา แรกๆเราก็ว่าดี เพราะขึ้นสะพานข้ามแยกได้ แต่ … อนิจจา ให้วิ่งฝั่งขวา โต๊ะให้น้ำดันไปตั้งอยู่ทางซ้าย จำได้ว่าต้องวิ่งตัดจากขวาสุดไปซ้ายสุดตรงใต้ทางด่วนพระราม 4 ที่ไม่ได้รับการปิดถนนเลนซ้ายเลย ต้องวิ่งหนีรถที่วิ่งลงมาจากทางด่วนเร็วมาก แทบเอาชีวิตไม่รอด เท่านั้นไม่พอ วิ่งไปเหนื่อยๆจะเอาน้ำดื่มให้สดชื่น ปรากฏว่าน้ำที่ให้นั้นกลายเป็นน้ำดื่มอัดลมซึ่งเป็นยี่ห้อน้ำที่เป็นสปอนเซอร์ในงานนั้น เพราะเห็นโฆษณาทั่วงาน ต้องวิ่งตัดถนนกลับเข้ามาเลนทางขวาสุด ไปได้น้ำเปล่าเย็นที่โต๊ะสุดท้ายและเส้นชัย เราต้องวิ่งเข้าไปซื้อน้ำที่ 7-11 ระหว่างทาง และถือวิ่งดื่มไปด้วย พบเห็นเพื่อนนักวิ่งแวะ 7-11 สาขานี้จำนวนมาก
ตอนขาไปได้ขึ้นสะพานข้ามแยก แต่ขากลับไม่ได้ขึ้นสะพานข้ามแยกตรงสามย่าน แต่ต้องวิ่งตรงมาขึ้นตรงสะพานข้ามแยกสาทร ความโกลาหลก็เกิดขึ้น เมื่อรถลงจากสะพานสามย่าน ต้องมาออกซ้าย เพราะขึ้นสะพานข้ามไปสาทรไม่ได้ แต่ติดนักวิ่งที่ต้องวิ่งตัดมาทางขวาเพื่อขึ้นสะพาน กลายเป็นการวิ่งตัดกันชิงถนน รถบางคันคงโมโห จึงขึ้นสะพานข้ามแยกที่ปิดให้นักวิ่งวิ่งมาด้วยความเร็วจนน่ากลัวว่าจะชนนักวิ่ง เรียกได้ว่า ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเลยล่ะค่ะ
จบงาน ได้ข่าวนักวิ่งต่างชาติโดนรถเมล์ชน แต่ดีที่ไม่บาดเจ็บหนัก และไม่เอาเรื่อง และเป็นบทเรียนทั้งนักวิ่งและผู้จัด บทเรียนของนักวิ่งคือ ควรดูผู้จัดค่ะว่ามีประสบการณ์หรือไม่ งานนี้ไม่ได้จ้างผู้จัด ดูแล้วก็รู้ว่าจัดกันเอง เห็นเป็นปีที่ 2 จึงคิดว่ามีประสบการณ์แล้ว พอเจอแบบนี้ได้แต่ปลง เรียกว่าเป็นงานที่ไม่ได้ให้ความสำคัญของนักวิ่งเป็นหลัก ให้ความสำคัญกับสปอนเซอร์เยอะ ให้ร่วมกตัญญูเป็นผู้ปิดถนนแทนตำรวจ (แน่นอนว่ารถไม่ค่อยเชื่อฟังหรอกค่ะ) ให้น้ำดื่มอัดก๊าซ (คิดได้ยังไง นักวิ่งที่มีแรงกระแทกจากการวิ่ง จะอยากเติมก๊าซให้ทรมานตัวเองทำไม) และที่สุดๆคือทางวิ่ง เสี่ยงต่อการโดนรถชนมากๆ เรียกได้ว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิงสำหรับงานนี้ หลังจากงานนี้ เราเลยมองหางานที่มีการว่าจ้างผู้จัดเป็นหลัก หากไม่มีจะดูทางวิ่งว่าถนนกว้างพอหรือไม่ หรือดูว่าสามารถจัดให้วิ่งวนซ้ายได้หรือไม่ จัดมากี่ปีแล้ว รีวิวปีที่แล้วเป็นอย่างไร ฯลฯ ประกอบกันค่ะ ประสบการณ์ดีๆ ได้บทเรียนเยอะเลย
3. (31 พ.ค. 2558) การท่าเรือมินิมาราธอนครั้งที่ 3
10.30 km, time 1.03.38, 6.11 min/km
การท่าเรือแห่งประเทศไทย
เห็น route แล้ว ก็อยากวิ่งแค่เพราะว่าได้วิ่งเรียบแม่น้ำเจ้าพระยาในการท่าเรือ ไม่มีรถให้กังวลเวลาวิ่งแน่นอน เลยลงสมัครไป และในความเป็นจริงแล้วก็เป็นอย่างนั้นค่ะ และยิ่งกว่านั้นด้วยซ้ำ เพราะถนนกว้าง ทางวิ่งเป็นของเราเหล่านักวิ่ง อากาศดีเพราะได้รับลมจากแม่น้ำเจ้าพระยา แถมวิวเครื่องจักรแปลกๆพ่วงสีสันสดใสให้ได้ยอมหยุดวิ่งถ่ายรูปมาด้วยเรียกว่าประทับใจที่สุดแล้วล่ะค่ะ งานโดยรวมก็จัดได้ดีด้วย ปีหน้าถ้ามีโอกาสก็จะไปอีกค่ะ
4. (9 ส.ค. 2558) Runsberry
8.46 km, time 53.42, 6.21 min/km
สวนลุมพินี
งานนี้ลงเพราะไม่มีงานอื่นให้ลงในวันที่ได้หยุดวันอาทิตย์แล้ว และเห็นว่าวิ่งรอบๆสวนลุม ใกล้ดีจึงสมัครไป เพื่อขอให้ได้วิ่งนั่นแหละ งานนี้หาน้ำยากไปหน่อย ตั้งซุ้มน้ำอยู่ในทางเสด็จพอดี เลยทำให้นักวิ่งไม่สามารถเข้าถึงน้ำได้หลังวิ่งเสร็จ ส่วนตัวต้องวิ่งอ้อมงานไปฉกเอาทางด้านหลัง ที่เหลือก็โอเคนะคะ งานเล็กๆ พลาดเล็กพลาดน้อยไม่ว่ากันค่ะ มีข้าวไรซ์เบอร์รี่แจกในงานด้วย เลยทำให้รู้จักข้าวไรซ์เบอร์รี่ตั้งแต่นั้นมา อร่อยกว่าและนุ่มกว่าข้าวกล้องอีกค่ะ ไม่อืดท้องด้วย ชอบค่ะ
5. (23 ส.ค. 2558) KMUTNB WALK-RUN
12.71 km, time 1.24.15, 6.38 min/km
King Mongkut’s University of Technology North Bangkok
งานนี้ที่ลงเพราะเพื่อนชวนว่าได้วิ่งขึ้น 2 สะพาน route ใหม่ไม่เคยวิ่ง เริ่มจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพระนครเหนือ และได้ข้าม 2 สะพาน คือ สะพานพระราม 5 และสะพานพระราม 7 แถมสะพานข้ามแยกอีก 1 สะพาน รวมระยะทางแล้ว 12.7 กิโลเมตร ยอมรับว่าหืดขึ้นคอ เพราะอยากได้เหรียญทองถ้าได้เข้าเส้นชัย 100 คนแรก แต่เนื่องจากเพื่อนนักวิ่งเป็นศิษย์เก่า ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และเราก็ยังแรงไม่ดีพอ จึงได้มาแค่เหรียญเงินค่ะ อย่างน้อยก็ได้เข้าใน 500 คนแรกนะคะ อย่างไรก็ตาม งานนี้ก็ประทับใจกับเส้นทางจริงๆแหละค่ะ สวยงามแม้จะเหนื่อย แต่ก็คุ้มละค่ะ
6. (18 ต.ค. 2558) Fit your Bone for Healthy Bone 2015
11.31 km, time 1.10.12, 6.12 min/km
ลานพระบรมรูปทรงม้า
เห็น route แถวพระบรมมหาราชวังนี่เป็นไงไม่รู้ค่ะ ขอลงไว้ก่อน ได้ไปไม่ได้/ชไปก็อีกเรื่องนึงค่ะ ชอบเส้นทางวิ่ง งานนี้ออกวิ่งจากลานพระบรมรูปทรงม้า ตรงมาที่แยก UN แล้วขึ้นสะพานพระราม 8 กลับตัวมาที่เส้นทางเดิม ชอบตรงปิดถนนได้ดี ถนนกว้าง คนไม่เยอะเกินไป ได้ภาพวิ่งวิวสวยๆค่ะ
7. (25 ต.ค. 2558) Bangkok 10 km International Run
11.32 km, time 1.09.55, 6.10 min/km
UN
งานนี้ลงเพราะเห็นว่าเป็นงานที่วิ่งระยะเดียวคือ 10 กิโลเมตร และเป็นงานอินเตอร์ วิ่ง route คุ้นเคยดี คือออกวิ่งจาก UN แล้ว ไปทางวัดเบญ อ้อมวังสวนจิตร ผ่านเขาดิน เข้าถนนสุโขทัย ไปทางสามเสน เข้าถนนพระสุเมรุ แล้วจึงกลับมาที่ UN เข้าใจว่าผ่านทางวิ่งหลายถนน ต้องปิดถนนหลายสาย หลายแยก เลยต้องมาเบรค ตอนที่ปิดแยกสุดท้ายให้นักวิ่งหยุดรอ เพื่อให้รถผ่านเพราะโดนปิดมานานแล้ว เข้าใจผู้จัดในระดับหนึ่ง แต่เล่นมาปิดตรงที่อีก 500 เมตรเข้าเส้นชัย เพราะกำลังวิ่งสับขาเร่งเข้าเส้นชัยกันมาเลย ต้องเบรคเอี๊ยดกันแบบแทบบาดเจ็บ เลยเห็นความไม่พอใจเกิดขึ้นในหมู่นักวิ่งเล็กน้อย คงต้องขอให้ผู้จัดงานวิ่งเข้าใจหน่อยนะคะว่าช่วง 800 เมตร ถึง 1 กิโลเมตรสุดท้ายนั้น เป็นช่วงเร่งเพื่อเข้าเส้นชัยค่ะ หากจะปิดจริง ควรปิดแยกก่อนหน้านั้นน่าจะดีกว่า และควรเลือกให้แยกนั้นปิดได้ 100% ก็จะดีมากค่ะ จัดงานวิ่งระดับชาติแบบนี้ แต่ไม่เห็นมาตรฐานระดับชาติสักเท่าไหร่ มีรายละเอียดหลายอย่างนะคะ คงต้องปรับปรุงกันต่อไป ไม่อยากเห็นภาพฝรั่งเค้าไปยืนประท้วงด่าหน้าเวที เพราะหยุดเค้าวิ่งที่แยกสุดท้ายทำให้เสียเวลาของเค้ามาก แต่ที่แย่กว่านั้นคือคนฟังคำร้องเรียนนั้น ทำหน้าไม่เข้าใจ น่าจะฟังภาษาอังกฤษไม่ออกน่ะค่ะ เล่นเอาฝรั่งงงรอบสองค่ะ ไม่อย่างนั้นอย่าแปะชื่องานว่าเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลค่ะ เอาแบบ Local บ้านๆแบบเรา คนไทยคุยกันเอง เข้าใจกันเอง ดีกว่าค่ะ
8. (15 พ.ย. 2558) Standard Chartered Bangkok Marathon
9.45 km, time 55.03, 5.50 min/km
พระบรมมหาราชวัง
เป็นงานที่คาดหวังว่าระดับอินเตอร์น่าจะจัดดีเช่นกัน และจัดมาหลายปีแล้ว แม้งานคนเป็นหมื่นก็น่าจะมีการจัดการที่ดี กลายเป็นว่าคนเยอะเกินกว่าสถานที่จัดงาน ชนิดที่ว่าล้นถนน ตั้งแต่ปล่อยตัวจนกว่าจะถึงเส้นปล่อยตัวจริง เล่นเอาเวลาผ่านไปเกือบสิบนาที และแล้วเหตุการณ์เดิมๆก็กลับมาหลอกหลอนค่ะ เมื่อนักวิ่งระยะไกล ต้องมาใช้ทางเดียวกับนักวิ่งระยะใกล้ ทำให้คนที่เหนื่อยมามากๆแล้วนั้น ต้องวิ่งหลบนักวิ่งระยะสั้นที่วิ่งกระจัดกระจายและไม่หลบให้ใคร แม้แต่นักวิ่งตาบอด เราเองถือเป็นนักวิ่งระยะสั้นนะคะ ก็พยายามหลบ แต่ก็ยังลำบาก สรุปแล้วก็รู้สึกไม่ดีค่ะ เพราะพื้นที่จัดงานและทางวิ่งไม่เพียงพอต่อนักวิ่งจำนวนมหาศาล แถมเราเห็นนักวิ่งที่วิ่งจบฟูลมาราธอนต้องยืนรอรับเสื้อ finisher full marathon ต่อคิวกันนานแสนนาน ห้องอาบน้ำมีไม่เพียงพอและอีกมากมาย มีสองทางเลือกสำหรับผู้จัด หากต้องการจัดที่เดิม ควรลดจำนวนคนลง และหากต้องการรับคนมากๆอย่างนี้ หา route อื่นที่เพียงพอกับจำนวนคนเถอะ สำหรับเราแล้ว ขอบายงานนี้ตลอดกาลค่ะ
9. (13 ธ.ค. 2558) Thailand International Half Marathon
11.04 km, time 1.05.51, 5.58 min/km
สะพานพระราม 8
มาวิ่งงานนี้เป็นปีที่ 2 ของธรรมศาสตร์จัด ไม่มีอะไร วิ่งสบายๆที่สะพานพระราม 8 งานจัดได้ดี และเรียบง่ายเหมือนเดิม
10. (17 ม.ค. 2559) TPA Charity Run for Rama 2016
10.78 km, time 1.00.38, 5.35 min/km
อันดับ 2 Overall หญิง
สวนรถไฟ
งานนี้เป็นงานแรกที่คว้าถ้วย และที่วิ่งที่สวนรถไฟ แต่สวนรถไฟก็เป็นสนามซ้อมนะคะ เลยคุ้นเคยทางเป็นพิเศษ เป็นงานเล็กๆจัดกันเองประมาณนั้น แต่เห็นถึงความพยายามที่จะดูแลนักวิ่ง งานนี้ 10 กิโลเมตร วิ่ง 4 รอบสวนรถไฟ อากาศร้อนอบอ้าว แม้วันนี้ต้องซ้อมวิ่ง 16 กิโลเมตร แต่ก็พยายามวิ่งให้ดีที่สุด เมื่อจบงานกะว่าจะได้วิ่งต่อ ผลปรากฎว่า ได้ที่ 2 Overall หญิง แรกๆก็ไม่คิดอะไร แต่ตอนวิ่งท้ายๆสังเกตว่าไม่มีผู้หญิงวิ่งอยู่ข้างหน้าเลย เลยเข้าไปถามคนนับนักวิ่งที่เส้นชัย เค้าไม่เห็นเราเข้าเส้น แต่มีพี่ผู้ชายคนหนึ่งมายืนยันให้ว่าเราเข้าที่ 2 ก่อนหน้าพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เค้าใส่ให้ที่สองไปแล้ว พี่คนนั้นเลยได้ที่ 3 ไป อีกอย่างเรามีเวลาในแอพพลิเคชั่น เป็นตัวยืนยันด้วย มาคิดๆดูแล้ว คิดว่าเค้าอาจมองไม่ทัน หรืออีกอย่างเราคงเหมือนผู้ชายมากเกินไปนั่นเอง ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ถ้วยเป็นงานแรก แม้เวลาจะไม่สามารถสู้คนเก่งๆได้ แต่ก็ได้ความภูมิใจเล็กๆ ก็เป็นกำลังใจได้ดีค่ะ
11. (28 ก.พ. 2559) Run Hero Run
21.16 km, time 2.00.41, 5.42 min/km
อันดับ 3 หญิง รุ่นอายุ 30-39
ลานพระบรมรูปทรงม้า
งานนี้วิ่งฮาล์ฟแรกในชีวิตค่ะ ตั้งใจเลือกงานนี้เพราะว่าวิ่งที่สะพานพระราม 8 ปิดถนนได้ 100% แน่นอน จะได้ไม่ต้องกังวลกับการระวังรถราหากเจองานที่ปิดการจราจรไม่ดี และทำให้ทำเวลาไม่ได้อย่างใจ และงานแรกของฮาล์ฟ ก็อยากวิ่งในที่ที่คุ้นเคย และแล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะสามารถวิ่งได้จบแถมติดถ้วยอันดับ 3 ในช่วงอายุมาอีกต่างหาก งานนี้ดีใจมากๆ เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะคะ ชอบงานนี้อีกอย่างคือ มีคนแต่งชุดแฟนซีเป็นซูเปอร์ฮีโร่เยอะมาก เพิ่มสีสัน และสนุกดีค่ะ
12. (6 มี.ค. 2559) SJC Run # 2
9.65 km, time 47.52, 4.58 min/km
โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์
งานนี้ก็มาวิ่งเป็นปีที่ 2 อีกเช่นกัน ช่วยสนับสนุนโรงเรียนเก่า และตั้งใจมาทำสถิติของตัวเองด้วย เพราะรู้จัก route เป็นอย่างดีค่ะ เข้าเส้นชัยด้วยเวลาที่ดีมากค่ะ แต่ถึงจะดีอย่างไร ก็ไม่ติดอันดับถ้วยนะคะ เข้าเป็นที่ 6 ไปซะได้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทำลายสถิติตัวเองแบบสุดๆอย่างนี้ ดีใจยิ่งกว่าได้รางวัลอีกค่ะ
13. (27 มี.ค. 2559) เดิน-วิ่ง ศูนย์โรคหัวใจสิรินธร ครั้งที่ 7
9.94 km, time 53.09, 5.21 min/km
อันดับ 4 หญิง รุ่นอายุ 30-39
พระราชวังพญาไท รพ.พระมงกุฎเกล้า
งานนี้เพื่อนชวนวิ่ง และเห็นว่าใกล้บ้าน แถมเป็น route ที่ไม่เคยวิ่งค่ะ เส้นพหลโยธิน กับพระราม 6 ปิดถนนดี พระองค์ภามาร่วมวิ่งด้วย ได้เห็นความเก่งของพระองค์ก็ชื่นชมค่ะ วิ่งจบพร้อมกับได้รางวัลอันดับ 4 มาแบบงงๆค่ะ เพราะวิ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีใจค่ะ
14. (3 เม.ย. 2559) 2nd Colgate Total Health Mini Marathon
11.96 km, time 1.06.01, 5.31 min/km
สะพานพระราม 8
งานวิ่งนี้เราออกจะอืดๆ แบบว่านอนไม่พอก่อนวันวิ่ง และทำงานหนักติดต่อกัน ร่างกายเลยออกอาการไม่พร้อมเท่าไหร่ เป็นงานที่จัดดีค่ะ แม้จะชนกับงานใหญ่ แต่ยังมีคนเก่งมาวิ่งให้เห็นเป็นแรงบันดาลใจ คงเพราะมีเงินรางวัลล่ะมั้งคะ ชอบค่ะงานแบบนี้ เงินรางวัลก็มีส่วนกระตุ้นนักวิ่งนะคะ ทำให้การแข่งขันสนุกขึ้นได้อีกนิดนึงค่ะ
เอาล่ะค่ะ หมดงานปีที่ 2 ภาคภูมิใจในตัวเองค่ะ มีความก้าวหน้าให้เห็นอย่างชัดเจน เข้าปีที่ 3 ตั้งเป้าว่าจะลงฮาล์ฟให้ได้อย่างน้อย 4 งานค่ะ มาคอยดูกันนะคะว่าเราจะทำได้ไหม
ขอให้เพื่อนนักวิ่งได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆจากงานวิ่งกันได้เยอะๆ และปลอดภัยกันทุกคนนะคะ
JoylyRunning 
Recent Comments