เราต้องใช้ ATP มากเท่าไรในการวิ่งมาราธอน?

การวิวัฒนาการไม่ใช่เรื่องโกหกนะคะ และสมองขนาดใหญ่ที่เกินธรรมดาของพวกเราเป็นตัวพิสูจน์ค่ะ ดังนั้นทำไมร่างกายของพวกเราไม่ปรับตัวเพื่อสร้างและเก็บ ATP ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ให้พลังงานเพื่อการเคลื่อนไหวของมนุษย์ให้มากขึ้นอีกสักหน่อยล่ะคะ? ในเมื่อกระบวนการนำ ATP มาใช้ใหม่นั้นต้องใช้การเติมเชื้อเพลิงแบบทั้งวันทั้งคืน ซึ่งก็คือการทานอาหารนั่นเอง ดังนั้นถ้าพวกเราจะสำรอง ATP ให้มีใช้ได้นานมากขึ้น จะไม่ดีกว่าหรือ? บางทีใช้ได้อีกสัก 1 ชั่วโมงก็คงดีกว่า หรือบางทีก็เก็บให้เพียงพอใช้สำหรับทั้งวันค่ะ

คำตอบนั้นเสียงดังฟังชัดเลยทีเดียวว่า “ไม่ได้” ค่า

ถ้าเพื่อนๆคิดถึง ATP ในความหมายที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย เพื่อนๆจะเข้าใจว่าทำไม

ผู้เชี่ยวชาญสองคนจากมหาวิทยาลัยแซน ดีเอโก นามว่า ไมเคิล เจ บัวโน (Michael J. Brono) และ เฟรด ดับบิว โคลฮอร์สท (Fred W. Kolkhorst) ได้ตั้งคำถามแบบฝึกหัดในห้องเรียนสรีระวิทยาว่า “เราต้องใช้ ATP มากเท่าไรในการวิ่งมาราธอน?” โดยใช้สถิติจากนักวิ่งมาราธอนเจ้าของสถิติชาวอเมริกันชื่อ คาลิด แคนนูชิ (Khalid Khannouchi) ที่ทำเวลาไว้ 2:05:42 ชั่วโมง พวกเขาให้นักเรียนของเขาคำนวณจำนวน ATP ที่คาลิดใช้ในการแข่งขันมาราธอน โดยสมมติว่าค่าปริมาณการใช้ออกซิเจนสูงสุด (VO2max) เท่ากับ 80 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อเวลา 1 นาที (mL/kg/minute) และน้ำหนักตัวเท่ากับ 55 กิโลกรัม (121 ปอนด์) แล้วจึงใช้สูตรคำนวณหาการสลายคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้ได้คำตอบแบบสั้นๆจากสูตรยาวๆ ขอบอกคำตอบเลยค่ะ คาลิดใช้ ATP ไป 60 กิโลกรัม (132 ปอนด์) ระหว่างการวิ่งมาราธอน 2:05 ชั่วโมง เรียกว่าใช้ไปเยอะมากกว่าน้ำหนักตัวซะอีกนะคะ ดังนั้นสารอาหารที่ทานเข้าไปจึงมีความสำคัญมากในการเผาผลาญจนได้พลังงาน ยิ่งเพื่อนๆมีน้ำหนักตัวมากเท่าไร ฟิตมากเท่าไร วิ่งนานและไกลมากเท่าไร เพื่อนๆยิ่งต้องการสารอาหารเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นดังนั้น พยายามพกสิ่งที่ให้พลังงานแก่เพื่อนๆได้ระหว่างการวิ่งระยะไกล และคาดเข็มขัดที่พกพาขวดน้ำไปด้วยเสมอนะคะ

ขอให้เพื่อนนักวิ่ง สามารถใช้ ATP ไปได้มากๆกันนะคะ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: