Explore the Knowledge for Runner
วันนี้มีนัดกับงานวิ่ง Run for Special 2017 วิ่งกันขำๆ 5 กิโลเมตร เป็นงานที่รายได้สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพผู้พิการทางสติปัญญา สมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย มีระยะวิ่ง 2.5 และ 1 กิโลเมตร สำหรับเด็กพิเศษด้วย เนื่องจากเจ็บเข่าจากงานวิ่งสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งหายเจ็บมา 1 วัน คือเดินไม่เจ็บแล้ว เหลือแต่ยังไม่ได้ลองวิ่ง เลยกะว่าจะเอางานนี้มาค่อยๆเหยาะๆใหม่
งานนี้เป็นงานเล็กๆ จัดง่ายๆ จนถึงง่ายเกินไป คือไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครจนวิ่งเสร็จ คำว่าง่ายๆ กับมักง่าย มันต่างกันนิดเดียว ตรงที่ความเอาใจใส่ของผู้จัด
นักวิ่งใจบุญหลายคนก็อยากสมัครงานวิ่งเล็กๆ ไปเติมสีสันให้งาน พร้อมกับได้บุญไปด้วยในตัว แต่เจองานแบบนี้ก็เล่นเอาท้อใจได้ คงต้องพิจารณาให้มากกว่านี้ หากต้องการร่วมงานวิ่งเล็กๆ
ภาพรวมงานนี้ก็ถือว่าไม่ได้ให้ความใส่ใจนักวิ่งเท่าที่ควรค่ะ สมัครออนไลน์ก็จริงนะคะ แต่วิธีการแจ้งการชำระเงิน ให้เข้ารวมกลุ่มในไลน์จำนวน 200 กว่าคน แจ้งไปแล้ว ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามา confirm นานๆเจ้าหน้าที่เข้ามาตอบที ส่วนใหญ่นักวิ่งช่วยกันตอบเอง เจ้าหน้าที่เข้ามาแค่บอกว่า มีอะไรลงๆในนี้ไว้ มีเวลาแล้วจะเข้ามาตอบ ถือว่าทุกอย่างที่ลงในนี้ เจ้าหน้าที่รับทราบ กลายเป็นว่าเหมือนถูกลอยแพ เพราะไม่รู้ว่าถึงเวลาจริงๆแล้ว จะมาบอกรับทราบหรือบอกไม่รู้กันแน่ ปกติควรมีอีเมลตอบรับ หรือการเข้าไปตรวจสอบรายชื่อ เชคว่าได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว นักวิ่งเข้าร่วมก็อยากจะให้แน่ใจว่าทางผู้จัดได้รับเงินจริง และจะมีเสื้อและบิบให้เราจริง
การรับเสื้อเริ่มต้นก็แจ้งแค่ว่ารับหน้างานเท่านั้น เชื่อได้เลยว่าคิวต้องยาวเหยียด เพราะเจ้าหน้าที่คงน้อย ดูจากลักษณะการทำงานแล้ว แต่เห็นตอบว่ามีเจ้าหน้าที่มาช่วยเยอะแน่นอน จึงจะรอดู แต่โชคดีที่ทางผู้จัดยอมไปแจกเสื้อก่อนวันงานที่สวนลุมก่อนวันงาน 2 วันแต่… แจกแค่ 16.00 – 18.00น. เท่านั้น โชคดีอีกเช่นกันที่เราว่างไปเอาได้ช่วงนั้นพอดี เพราะเราเป็นคนไม่ชอบไปขลุกขลักหน้างาน ขั้นตอนการรับก็บ้านๆตามที่คิด ไม่ต้องแสดงหลักฐานโอนเงิน หรือใดๆทั้งสิ้น บอกลำดับที่ได้จากการสมัครออนไลน์และไซส์เสื้อ ก็รับไปได้เลย ไม่ต้องเซ็นชื่อ เอ๊ะ นี่ยังไง แล้วถ้ามีใครมามั่วรับเสื้อไปก็คงไม่สามารถตรวจสอบใดๆได้ สรุปวันงาน จุดรับเสื้อก็คิวยาวตามระเบียบ ไม่ฉลาดเลยที่จะทิ้งทุกอย่างไปที่วันงานอย่างเดียว เอาเจ้าหน้าที่มาเยอะๆก็ไม่ช่วยอะไร เพราะคนมันเยอะกว่าเจ้าหน้าที่ ยังไงก็ต้องใช้เวลาอยู่ดี เสื้อที่ได้รับมา ปรากฏว่าสีตกทางแขนเสื้อ 2 ข้างซะอีก ยังดีที่ผ้าดี ทรงดี น่าเก็บ คงเก็บไว้ใช้ต่อเอง ไม่ได้ส่งต่อใคร
มาถึงวันงาน อย่างแรกเลยคือ เดินหาน้ำ ไม่มีจุดให้น้ำ พอดีถามเจ้าหน้าที่ เค้ากำลังยกน้ำไปแจกใครสักคน เค้าเลยแบ่งให้เรามา เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ ที่ไม่มีน้ำให้ในบริเวณงาน จุดรับฝากกระเป๋า อยู่ห่างออกไปในความมืด บอกให้ไปศาลาแปดเหลี่ยม นี่มันไม่ใช่ละ มันต้องไปอีกทางหนึ่ง ถ้าเพื่อนไม่บอกคงหาไม่เจอ จุดรับฝากของเป็นจุดเดียวที่ดูมีการเตรียมพร้อมและเรียบร้อย แบ่งหมายเลขบิบฝากชัดเจน แต่ก็ทำให้ต้องใช้เจ้าหน้าที่มากเกินจำเป็น น่าจะเอาเจ้าหน้าที่ไปช่วยในงานมากกว่า
ขณะวิ่ง จุดให้น้ำเป็นแก้วน้ำที่ต้องเจาะหลอดดูด คืออะไรคะ นี่จัดงานวิ่งหรือจัดงานตามใจฉันคะ ยังดีที่รอบสองรู้ตัว แกะแก้วน้ำไว้รอนักวิ่งเลย
งานแบบนี้อย่าหวัง Check point เพราะแค่ทางวิ่งเข้าเส้นชัยยังมีคนนั่งกันอยู่เต็มพื้นเพราะเป็นบริเวณหน้าเวทีพอดี กำลังมีการแจกของจับฉลาก (ไม่ใช่ถ้วยรางวัลนะคะ งานนี้นึกว่ามีถ้วยที่ 1-3 แต่ไม่เห็นการแจกรางวัล) ยังดีนะ ตอนถึงเส้นชัยแล้ว ยังมีคนมายืนแจกเหรียญ ไม่งั้นคงต้องเดินหาอีกว่าโต๊ะให้เหรียญอยู่ไหน
การรับอาหารก็สุดคลาสสิก ยืนต่อคิว ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ใครรอช่างมัน ผ่านไป 15 นาที ถึงคิวเราพอดี ชามกระดาษหมด เจ้าหน้าที่เงยหน้าถามเรา ไม่มีชามมาเหรอคะ ปวดใจมาก ใครเค้าจะเตรียมชามมางานวิ่งคะน้อง วันหลังพี่ควรหิ้วปิ่นโตมารับข้าวจากน้องไหมเนี่ย ผู้ชายที่ยืนต่อคิวด้านหลังเริ่มด่าข้ามหัวมา เอิ่ม พี่งงค่ะ น้องบอกไปขอชามร้านข้างๆมาได้ไหมคะ พอถามว่าไม่ใช่ร้านเดียวกันเหรอ เค้าจะไม่ว่าเหรอ น้องตอบคงไม่ว่าเพราะเป็นจิตอาสามาเหมือนกัน เราก็ไปขอมา ดีนะเค้าให้ ถึงได้ข้าวไข่เจียวมาทาน แถวอื่นไม่ต้องพูดถึง คิวยาวเหยียด เลยจบการทานอาหารแต่เพียงเท่านั้น ไม่ไปต่อคิวไหนต่อ และกลายเป็นว่าอาหารที่มาเป็นจิตอาสามากันทั้งนั้น ดังนั้น อาหารจะพอไม่พอ ชามพอไม่พอ นักวิ่งก็เป็นไปตามยถากรรม
งานนี้จ้าง Pat Running มาจัดให้ เลยได้ภาพงานวิ่งแค่ซุ้มจุดเริ่มต้นเส้นชัย พรมปูตอนเข้าเส้นชัย มีนำวอร์มอัพ นอกเหนือจากนั้น ไม่ได้บรรยากาศของงานวิ่งแม้แต่นิด
การจะอ้างว่าจัดกันเอง คนน้อย งานยุ่งไม่ค่อยมีเวลา ไม่ใช่เหตุผลที่ดีในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานไหนๆ ความไม่เอาใจใส่ และการไร้ระเบียบวินัย ไม่สามารถจัดงานใดให้ดีได้ การวางแผนที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ยิ่งคนน้อยยิ่งต้องวางแผนให้ดี พูดง่ายๆเช่นกันว่า จะหาเงินจากงานวิ่ง ก็ต้องให้ความสนใจกับการวิ่งและนักวิ่ง นักวิ่งเป็นคนนำเงินมาให้ ไม่ใช่จะทำอะไรกับเขาก็ได้ แม้จะใจบุญก็ตาม แต่แทนที่จะได้บุญกันเต็มๆ กลับได้บาปด้วย เพราะทำให้ภาพพจน์ของน้องๆเด็กพิเศษต้องเสียไป ด้วยว่าเขาคงไม่อยากจะหาเงินด้วยวิธีการแบบนี้
มาว่ากันด้วยการวิ่งดีกว่า วันนี้ตั้งใจมาเดิน วิ่งนิดหน่อย แต่วิ่งแล้วยังเจ็บเข่าอยู่ เลยเดินดีกว่า จบการเดิน 5.13 กิโลเมตร ด้วยเวลา 57.45 นาที ได้ Pace 11.04 นาทีต่อกิโลเมตร คงต้องไปรอเวลาให้เข่าหายให้สนิท ค่อยมาวิ่งใหม่ค่ะ
สรุปวันนี้ แม้ไม่ได้ตั้งใจจะมาวิ่ง แต่ก็อยากร่วมงานวิ่ง กลับต้องมาเจองานที่ไม่เรียกว่าเป็นงานวิ่งแม้แต่น้อย แม้แต่ Fun Run ก็ไม่ใกล้เคียง เมื่อไม่ได้มีนักวิ่งเป็นศูนย์กลางของการจัดงานค่ะ
ขอให้เพื่อนนักวิ่งดูดีๆนะคะว่าจะไปร่วมงานวิ่งไหนไม่ให้เสียความรู้สึกค่ะ
18 Mar 17
Recent Comments