Explore the Knowledge for Runner
ทำยังไงให้วิ่งช้าลง ในเมื่อสมองมันจำได้แต่ก้าวขาที่ยาว และเร็ว ยิ่งรวมกับบรรยากาศงานวิ่ง มีสิ่งกระตุ้นเยอะ ขายิ่งก้าวฉับๆกันเลยทีเดียว แต่คราวนี้ต้องพยายามสั่งร่างกายให้ช้าลงๆให้ได้ค่ะ
งานวิ่งที่มาเข้าร่วมวันนี้ชื่อว่า You Run You Share จัดขึ้นที่สวนรถไฟ โดยพฤกษา และ Amazing Field ค่ะ เป็นงานเล็กๆ มาทีหลังงานใหญ่ๆงานอื่น จึงมีนักวิ่งมาร่วมไม่มากนัก จำนวนประมาณ 1,000 คนค่ะ วันนี้ตั้งใจวิ่ง 10 กิโลเมตรค่ะ เป็นครั้งแรกหลังจากต้องหยุดวิ่งเพราะเจ็บเข่ามานานเกือบ 2 เดือน และเนื่องจากเราตั้งเป้าหมายวิ่งมาราธอนในอีก 6 เดือนข้างหน้า จึงอยากจะวิ่งให้ช้าๆ และจบให้ได้โดยไม่เจ็บค่ะ โดยการวิ่งช้าๆนั้น จะใช้ความรู้สึกเหนื่อยที่ 50% ของเราเป็นหลักค่ะ
เนื่องจากเลือกงานใกล้บ้านอีกแล้ว จึงไม่ต้องตื่นเช้ามาก เลยชะล่าใจ เกือบไปไม่ทันปล่อยตัวซะแล้ว ไปยืนรั้งท้ายขบวน หลังปล่อยตัวผ่านไป 30 วินาทีจึงจะถึงจุดปล่อยตัวค่ะ เส้นทางวิ่งวันนี้ เราจะได้วิ่งกัน 3 สวนเลย นั่นก็คือ สวนรถไฟ สวนสมเด็จ และสวนจตุจักรค่ะ ซึ่งขอบอกว่าเป็นเส้นทางที่ดีมากๆค่ะ เพราะยังคงอยู่ในสวน วิ่งไปได้เรื่อยๆแบบไม่เบื่อ จะมีบางช่วงที่ต้องวิ่งข้ามถนน แต่ก็เล็กน้อยค่ะ ดีกว่าต้องวิ่งรอบสวนรถไฟ 4 รอบค่ะ อากาศวันนี้อบอ้าวตามประสาหน้าร้อนค่ะ อุณหภูมิจาก Runkeeper แจ้งว่า 28 องศาเซลเซียส ปล่อยตัวกันตอน 6 โมงเช้า แสงอาทิตย์ก็มาแล้วค่ะ วิ่งถึง 7 โมงนี่ เล่นเอาเหงื่อจะหมดตัวค่ะ
งานวันนี้จัดได้ดีนะคะ เส้นทางวิ่งกั้นได้ดีมาก มีป้ายชี้ชัดเจน มีกรวยกั้นชัดเจน บางมุมที่อาจจะทำให้นักวิ่งงงได้ ก็มีเจ้าหน้าที่ยืนให้ข้อมูลตลอดค่ะ น้ำดื่มเพียงพอ เติมทัน อาหารมีให้เลือกเยอะ เสียอย่างค่ะ ไม่ได้แจ้งว่าต้องเลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ เข้าเส้นมา ยืดเสร็จ เดินเจออะไรก็เอาหมดค่ะ มาเจอที่ชอบทีหลังก็เลยอดทานไป มีไอติมแจกฟรี หยิบกี่แท่งก็ได้ เป็นไอติมโบราณ ยี่ห้อโปรดพอดีค่ะ เลยซัดไป 2 แท่งค่ะ แล้วที่วิ่งมาคืออะไรคะ หึ หึ
หลังจากเดินถ่ายรูปจนพอใจแล้ว เลยไปรอดูผลการแข่งขัน งานนี้ไม่มีพิมพ์ผลแจกเลย ทั้งที่มี Time Chip เลยได้เห็นแต่ผลที่ 1-5 ของแต่ละช่วงอายุ แต่สามารถตรวจผลงานของตัวเองผ่านเวปไซท์ Sportstat.asia ได้ค่ะ และแล้วเราก็ค้นพบว่าได้ที่ 6 ของช่วงอายุ 30-39 ปีไปซะงั้น ห่างจากลำดับที่ 5 ไป 30 วินาที ซึ่งเป็นเวลาตั้งแต่ปล่อยตัวไปจนถึงเวลาที่เราเหยียบแท่นจับเวลาค่ะ เรียกว่าถ้าออกพร้อมกัน ผลการแข่งขันก็เท่าๆกันแหละค่ะ แอบเสียดายเล็กๆ เพราะเกือบได้รางวัล แต่ก็นั่นแหละค่ะ เราตั้งใจไว้แล้วว่าวันนี้จะวิ่งให้ช้า ไม่ได้นึกถึงการแข่งขันเลย จึงวางความเสียดายลงได้ค่ะ หากต้องการรางวัล เราต้องตั้งใจวิ่งให้เร็ว ชนะให้ขาด จะได้ไม่มีข้อสงสัยใดๆนะคะ
จบการวิ่งไปที่ 10.43 กิโลเมตร ด้วยเวลา 1.07.48 ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ย 6.46 นาทีต่อกิโลเมตร ช้าได้อย่างที่ใจต้องการแล้วค่ะ จากเดิมวิ่งอยู่ที่ 6 นาทีต่อกิโลเมตร ได้อันดับที่ 6 จากจำนวนนักวิ่ง 120 คน ในช่วงอายุ 30-39 ปี เป็นอันดับที่ 24 จากนักวิ่งหญิง 352 คน และเป็นอันดับที่ 135 จากนักวิ่งทั้งหมด 1000 คนค่ะ
วันนี้พยายามใช้ความรู้สึกวิ่งค่ะ อย่างที่บอกไปแล้ว วันนี้ตั้งใจเป็นวันวิ่งช้าตามโปรแกรมซ้อมวิ่งมาราธอน ใช้ความหนักประมาณ 50% จากความรู้สึกที่หนักที่สุด ถอดนาฬิกาทิ้ง ไม่สนเวลา ไม่สนระยะทาง ดื่มด่ำกับความสุขที่เกิดจากการวิ่ง และเหงื่อที่ออกมามากแต่ทำให้สดชื่นค่ะ ระหว่างทาง ได้ยินเพื่อนนักวิ่งท่านหนึ่งพูดให้กำลังใจนักวิ่งอีกท่านหนึ่งที่บ่นว่าเริ่มไม่ไหวแล้วว่า ค่อยๆวิ่งไปเรื่อยๆจะได้ไม่เหนื่อย ไปเรื่อยๆ ยังไงก็ถึง เลยเป็นเครื่องเตือนใจตัวเองด้วยค่ะ ความรู้สึกว่าไปเรื่อยๆนั่นแหละคือ 50% ของเราเอง อย่านึกถึงเวลาที่จะต้องสูญเสียไป เพราะร่างกายเรียกร้องในแต่ละวันไม่เท่ากัน อย่านึกถึงระยะทางที่วิ่งได้อยู่ตอนนั้น เพราะความสบายของร่างกายและใจมีความสำคัญกว่า ความไม่เคร่งเครียด ไม่ถูกเร่งรัด ไม่กดดันตัวเอง อาจทำให้เราวิ่งได้ดีกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ ดังนั้น ขอให้การวิ่งช้าในวันนี้เป็นพื้นฐานที่ดีในวันที่จำเป็นต้องวิ่งเร็วแล้วกันค่ะ
ขอให้เพื่อนนักวิ่งมีวันวิ่งสบายๆกันสักวันนะคะ
Page: Joylyrunning
Website: Joylyrunning.com
Recent Comments