คู่รักวัย 80 จับมือจบมาราธอนสุดท้ายด้วยกัน

เคย์ และโจ โอเรแกน (Kay and Joe O’Regan) เข้าร่วมการแข่งขันมาราธอนด้วยกันร่วมสิบรายการรอบโลก จากบอสตันถึงเอเธนส์ ไปถึงเบอร์ลิน ไปจรดขอบเหนือสุดของนอร์เวย์ภายใต้พระอาทิตย์ตอนเที่ยง

แต่เขาสองคนจบมาราธอนด้วยกันขณะที่จับมือกันเพียงแค่ 2 รายการเท่านั้น รายการแรกเกิดขึ้นในปี 1986 ที่ลอนดอนมาราธอน พวกเขาประสานมือกันวิ่งเข้าเส้นชัยในขณะที่ตากล้องจับภาพพวกเขาได้ภายใต้ซุ้มนาฬิกาจับเวลา ในตอนนั้น พวกเขาอายุ 50 ปี และเป็นมาราธอนแรกของพวกเขา

ในปี 2016 ที่คอร์กซิตี้มาราธอนในเกาะไอร์แลนด์ตอนล่าง วันที่ 6 มิถุนายน อีกครั้งที่โจจับมือเคย์เข้าเส้นชัย ในครั้งนี้ยังเหลือระยะเกือบครึ่งไมล์ก่อนจะถึงเส้นชัย และเขาได้จับมือเคย์ไว้ตลอดระยะทางก่อนเข้าถึงเส้นชัย เคย์วิ่งมาราธอนมาถึง 113 รายการเมื่ออายุ 80 ในขณะที่โจวิ่งมาราธอนนี้เป็นรายการที่ 29 พวกเขาสัญญาต่อกันว่าจะเป็นมาราธอนสุดท้าย เป็นการเดินทางระยะสั้น 42 กิโลเมตรเพื่อฉลองครบรอบการแต่งงาน 57 ปี

“พวกเราค่อนข้างจะประหลาดใจที่พวกคุณสนใจการวิ่งของพวกเราที่นี่” โจกล่าวกับ Runner’s World ผ่านทางโทรศัพท์ เคย์พูดผ่านสายโทรศัพท์มาจากอีกห้องหนึ่งในบ้านของพวกเขา ซึ่งอยู่ในบริเวณพื้นที่รอบนอกของเมืองเอนนิสคอร์ทธี (Enniscorthy) ประเทศไอร์แลนด์ เมืองที่มีประชากรเพียง 10,000 คนบนฝั่งตะวันตกของประเทศที่มีประสาทและแม่น้ำผ่าน “พวกเราไม่ใช่คนพิเศษ หรือโดดเด่น พวกเราแค่เห็นว่าการวิ่งเป็นอะไรบางอย่างที่พวกเราทำด้วยกันได้” โจกล่าว

พวกเขาจบการวิ่งมาราธอนที่คอร์กซิตี้ด้วยเวลา 5:25:29 ชั่วโมง และแต่ละคนชนะการแข่งขันในช่วงอายุของพวกเขาเองด้วย

จากสายโทรศัพท์ โจกระหายที่จะรวบรวมรายการความสำเร็จของภรรยาให้ฟัง เคย์ได้เป็นแชมป์มาราธอนในประเทศไอร์แลนด์ในช่วงอายุ 60, 65, 70 และ 75 ปี จากการวิ่งแข่งขันมาตรฐานทั่วไป

คู่รักค้นพบกีฬาในช่วงอายุท้ายๆของชีวิตแล้ว เคย์อายุ 49 ปี ต้องการที่จะทำอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่เพื่อฉลองวันเกิดอายุ 50 ปี ซึ่งมีเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์ ดังนั้นเธอจึงลงสมัครการแข่งขันให้กับพวกเขาเองในงานลอนดอนมาราธอนปี 1986 พวกเขาแต่งงานกันมาแล้ว 27 ปี และมีลูกที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว 2 คน แต่โจเห็นด้วยที่จะเข้าร่วมความสนใจใหม่ของภรรยา หลังจากที่พวกเขาเกษียณในช่วงท้ายของทศวรรษที่ 1990 พวกเขาเริ่มต้นเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันมากมาย ในปี 1997 พวกเขาย้ายไปที่เอนนิสคอร์ทธีที่ซึ่งพวกเขาหวังจะเข้าร่วมสโมสรนักวิ่ง

“พวกเราอยู่ด้านนอกของเมืองและเพื่อนบ้านของพวกเราไม่เคยพบเห็นคนวิ่งบนถนนมาก่อน” โจกล่าว “ผมคิดว่าผู้คนจำนวนมากคงคิดว่าเราบ้า”

ในตอนนี้พวกเขาเป็นสมาชิกผู้นำของสโมสรนักวิ่งสลานีย์ โอลิมปิกท้องถิ่น ซึ่งมีจำนวนสมาชิกมากขึ้นถึง 160 คน หลายคนมาเข้าร่วมเพื่อสนับสนุนครอบครัวโอเรแกนในช่วงมาราธอนครั้งสุดท้ายของพวกเขาที่ผ่านมา
“พวกเรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นมากมายบนทางวิ่ง และเมื่อผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมเฉื่อยลง พวกเขาก็พร้อมที่จะช่วยดันผมไปข้างหน้า” โจกล่าว

โจได้ความรู้สึกว่าถูกยกขึ้นเมื่อเขาได้จับมือภรรยาของเขา “เขาดูเหมือนจะมีลมยกตัวรอบที่สองเลย” เคย์กล่าว “พวกเราสามารถวิ่งเข้าสู่เส้นชัยได้จริงๆราวกับว่าพวกเราวิ่งเร่งกันอยู่เลย”

คอร์กซิตี้มาราธอนได้ให้เกียรติพวกเขาด้วยการให้หมายเลขวิ่งเบอร์ 80 เหมือนกันก่อนที่จะมีการแข่งขัน เมื่อพวกเขาวิ่งผ่านเส้นชัย โจกล่าวว่า “รู้สึกเหมือนพวกเขาถูกรุมล้อมด้วยตากล้องมากมาย”
ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ค่อยจะเข้าใจว่าความอึกทึกที่เกิดขึ้นนั้นว่าเกี่ยวกับอะไรนัก แต่เขาก็ยอมรับได้ว่าการวิ่งจบระยะทาง 42 กิโลเมตรพร้อมกันสองคน แถมอายุ 80 ปีเหมือนกันด้วยนั้นพบได้ยากยิ่งจริงๆ

“เรื่องจริงคือ ผมอาจดูเหมือนว่าผมอายุ 80 แต่ผมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย” เขากล่าว
2 – 3 สัปดาห์ก่อนการแข่งขัน โจได้ค้นหาผลการแข่งขันโลกจากกินเนสบุ๊กสำหรับคู่รักที่แก่ที่สุดที่จบการแข่งขันมาราธอนได้ พวกเขาได้พลาดสถิตินั้นมาเพียง 250 วัน เขากล่าวว่า พวกเขาจะมีคุณสมบัติพอที่จะได้รับการบันทึกสถิติโลกได้ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2016 ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมมากหากเข้าร่วมงาน นิวยอร์กซิตี้มาราธอน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2016 นักวิ่งมาราธอนที่เกษียณแล้วลังเลที่จะวางแผนใดๆ
“ผมไม่เคยพูดคำว่าไม่ได้” เขากล่าว

เคย์ยังคงไม่มีแผนใดๆที่จะจบการวิ่ง 42 กิโลเมตรอีก แต่กล่าวว่า เธอก็ยังคงตั้งตาคอยการได้กลับไปบนถนนกับสามีของเธออีกครั้งหนึ่ง
“การวิ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเราไปแล้ว และก็หวังว่าจะยังสามารถวิ่งต่อไปได้อีกสัก 2 – 3 ปี” เธอกล่าว “ในไอร์แลนด์ มีคำกล่าวที่ว่า ‘คนที่สวดมนต์มาด้วยกัน จะได้อยู่ด้วยกัน’ ดังนั้นพวกเราจึงขอกล่าวว่า ‘คนที่วิ่งด้วยกัน จะได้อยู่ด้วยกัน’”

(แปลและเรียบเรียงจาก Octogenarian Couple Finishes Final Marathon Holding Hands โดย Kit Fox จาก Runnerworld.com วันอังคารที่ 21 มิถุนายน 2016)