การเตรียมตัวเป็นเรื่องที่ดี แต่การไม่มีบิบเป็นเรื่องที่เซ็ง

ก่อนออกงานวิ่ง เราต้องมีการเตรียมตัวสักเล็กน้อยใช่ไหมคะ ชุดวิ่งกับบิบที่ติดเรียบร้อย ควรวางรออยู่บนที่ของมันเพื่อการคว้ามาใส่ได้เลยยามที่เราเพิ่งตื่นและยังงัวเงียอยู่ แม้ในยามเช้าตรู่ที่ฟ้ายังไม่สาง ปกติเราก็จะเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมน่ะแหละค่ะ แต่คืนก่อนหน้ามีเหตุขลุกขลัก ทำให้ต้องรีบนอน ตื่นมาค่อยว่ากันซะงั้น

และแล้วเราก็เดินทางถึงสถานที่จัดงานวิ่งชื่อว่า คณะกายภาพบำบัดเซนต์หลุยส์มินิมาราธอน 2017 ที่จัดขึ้นที่วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ก่อนเวลาปล่อยตัวคือ 5.30 น. เพียง 20 นาทีค่ะ แต่ไปในสภาพที่ไม่มีสายรัดเอว เพราะลืมพกมาค้างบ้านเพื่อนด้วย เลยใช้กระเป๋าเล็กๆของเพื่อนสะพานแทน ซ้ำร้ายกว่านั้นไม่ได้หยิบบิบติดตัวมา ลองเตร่ไปที่โต๊ะลงทะเบียนที่เป็นน้องๆอาจารย์และเป็นนักกายภาพบำบัดด้วยกัน ไถ่ถามได้ความว่าบิบหมดแล้ว ไม่มีขายให้ ไม่มีฝากขาย ไม่สามารถออกใหม่ให้ได้ แต่ร่วมวิ่งได้ เลยไม่รู้จะยังไงดี ใจนึงก็คิดว่าวิ่งตัวเปล่าๆไป แต่ก็แอบเสียดายที่จะไม่ได้เหรียญทั้งที่เสียเงินไปแล้ว แอบเจ็บใจตัวเองในความรีบร้อนจนสะเพร่าซะเอง ไม่รู้จะโทษใคร น้องที่โต๊ะลงทะเบียนได้แนะนำให้รู้จักกับน้องนักกายภาพบำบัดอีกคนหนึ่งที่เพื่อนไม่ได้มาวิ่ง และมีบิบเปล่า 2 ใบ เลยบอกน้องว่าขอซื้อต่อก็ได้ ไม่เอาเสื้อก็ได้ น้องบอกติดต่อเพื่อนไม่ได้ ให้เรารอก่อน แล้วน้องก็เดินหายไป ยืนยืดรอน้องเค้าจนได้เวลาปล่อยตัว 9.1 กิโลเมตรตอน 5.30 ไปแล้ว น้องก็ยังไม่กลับมา เลยกะว่าถ้าถึงเวลาปล่อยตัวนักวิ่งผู้พิการทางสายตาตอน 5.50 แล้วน้องยังไม่มา ก็จะออกวิ่งแล้ว 

ระหว่างที่ยืดๆมองๆอยู่นั้น น้องอาจารย์ที่โต๊ะลงทะเบียนก็บอกว่า มีเพื่อนที่จองบิบไว้แล้วไม่มา เลยเวลาปล่อยตัวแล้ว และเห็นพี่ยืนรอนานแล้ว เลยขอยกบิบให้ฟรีๆ ต้องขอบคุณน้องคนนั้นจริงๆ ไม่ได้ถามชื่อน้องไว้ รู้แต่เป็นอาจารย์อยู่ที่คณะกายภาพบำบัด อยากบอกน้องว่า งานนี้สำคัญสำหรับพี่มากเลย เพราะพี่อยากลงวิ่งมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มาปีนี้ได้ลงสมัครวิ่ง แต่จะไม่ได้เหรียญที่ระลึก ซึ่งเป็นอะไรที่เกี่ยวกับกายภาพบำบัด และมีสลักอักษร PT ที่เหรียญ พี่ก็รู้สึกเสียดายมาก ชนิดที่ไม่อยากก้าวขาวิ่งเลยทีเดียว เหมือนเว่อร์แต่จริงนะ สุดท้ายน้องใจดียกบิบให้บอกว่าเพื่อนคงไม่มาแล้ว พี่ไปวิ่งเถอะ อย่างนี้พี่ซาบซึ้งใจสุดๆค่ะ

หลังติดบิบเสร็จ ถึงเวลาปล่อยตัวนักวิ่งผู้พิการทางการเคลื่อนไหวและทางสายตาพอดี เลยออกวิ่งไปด้วยกัน รู้สึกดีนะคะที่ได้เห็นน้องนักวิ่งวีลแชร์มีน้องนักวิ่งเท้าเปล่าวิ่งประกบ คอยช่วยเข็นช่วยให้กำลังใจกันไปค่ะ นอกจากนี้ยังมีคู่นักวิ่งผู้พิการทางสายตาวิ่งคู่กันไปด้วย ได้บรรยากาศฟ้ากำลังจะสว่าง เลยถ่ายรูปน้องเค้าเก็บไว้ซะหน่อยค่ะ

วิ่งไปเรื่อยๆตามทาง วันนี้ถูกปล่อยตัวออกจาก รพ.เซนต์หลุยส์ เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าแยกสุรศักดิ์ เลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าเจริญราษฎร์ กลับตัวใกล้สะพานกรุงเทพใหม่ วิ่งกลับมาที่แยกสุรศักดิ์อีกรอบ เลี้ยวขวาเข้าสาทร กลับตัวที่แยกนราธิวาส วิ่งกลับเข้าเซนต์หลุยส์ ระยะรวมทั้งหมด 9.56 กิโลเมตร ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 59.13 นาที ความเร็ว 6.12 นาทีต่อกิโลเมตร วันนี้วิ่งตั้งแต่อยู่ปลายแถว ไล่ขึ้นมาอยู่กลางแถว แต่ไม่ทันหัวแถว เสียดาย ถ้าได้ปล่อยตัวพร้อมคนอื่น จะกัดฟันสู้สุดใจขาดดิ้น ขอชิงถ้วย 50 คนแรก แต่เมื่อรู้แล้วว่ายังไงก็ไม่ได้ จากความผิดพลาดของเราเอง ก็ถือว่าวันนี้ชิวๆไป เป็นวันซ้อมวิ่งยาวกันไปดีกว่าค่ะ ไม่ต้องเร่งให้เปลืองตัวมาก เมื่อวานก็ยังเพิ่งไปเล่นแบดมา ขายังเมื่อยอยู่เลยค่ะ

พอเข้าเส้นชัยรับเหรียญที่อยากได้สมใจแล้ว ก็ไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ เจอน้องอาจารย์คนที่ให้บิบมา ตะโกนเรียก พี่ๆเข้าเส้นแล้วเหรอคะ ดีใจด้วยนะคะ เข้าเวลาเท่าไหร่คะ หลังจากตอบคำถามน้องไป เลยถามน้องว่าตกลงเพื่อนน้องมาหรือเปล่า กลัวน้องจะเดือดร้อน น้องบอกไม่มาค่ะ เราก็ค่อยสบายใจ กล่าวขอบคุณน้องแล้วเดินแยกมาค่ะ

สรุปรวมงานวันนี้ดีมากๆ ปิดถนนได้ดี แม้ให้วิ่งเลนขวาเป็นบางช่วง และตัดมาวิ่งเลนซ้ายตอนใกล้เข้าเส้นชัย ก็สามารถกันรถได้ดี งานนี้ตำรวจจราจรดูแลความเรียบร้อยได้ดีมากๆ อาจมีหยุดติดไฟแดงเป็นบางช่วง แต่ก็ไม่นาน ลื่นไหลได้ดีค่ะ น้ำท่าพอเพียง มีเสียงเชียร์จากน้องนักศึกษาตลอดทาง อาหารการกินเยอะแยะ ไม่จำกัดซะด้วย มีทั้งข้าวไข่เจียว ผัดซีอิ๊ว ก๋วยเตี๋ยว มาม่า โจ๊กเกี๊ยวกุ้ง (ทานแต่เมนูนี้เบิ้ลสองเลยค่ะ) ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้พร้อมเครื่องไม่มีอั้น น้ำส้มปั่น แตงโมปั่น กาแฟซองชงยังมีเลย แถมน้ำแจกมีอีกประมาณ 4 ยี่ห้อ นมแจกอีกต่างหาก เรียกได้ว่าทานเสร็จ คนที่ต้องไปทำงานต่ออย่างเราไม่ต้องหาอะไรทานเพิ่มแล้วค่ะ 

และสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับงานนี้ก็คือ ความน่ารัก เอาใจใส่ของบรรดาเจ้าหน้าที่ ทั้งอาจารย์และน้องๆนักศึกษาเรียกว่าเต็มใจให้บริการสุดๆ ไม่ใช่แค่ในงานนะคะ แต่รวมถึงวันที่ไปรับเสื้อด้วย ที่น้องๆยืนต้อนรับคอยบอกทางไม่ให้หลง มีบริการตรวจเท้า ตรวจสมรรถภาพฟรี ระบบรับเสื้อดี เจ้าหน้าที่เยอะ รวมมาถึงวันงานด้วย แม้เราจะไปยืนขอบิบแบบน่าจะทำให้ชีวิตอาจารย์เค้าวุ่นวาย แต่ก็ไม่เห็นสีหน้าหรือน้ำเสียงที่แสดงความไม่พอใจแม้แต่นิดเดียว แถมในงานยังมีบริการกายภาพบำบัดฟรี เป็นการโปรโมทวิชาชีพไปในตัวด้วย ยิ่งทำให้เราชื่นชม ได้ใจเกินร้อยไปเลยค่ะ

นอกจากนี้ยังมีความประทับใจเล็กๆจากน้องนักศึกษาที่เราลุกให้น้องที่พานักวิ่งพิการมานั่งทานอาหารที่โต๊ะ และเราของเยอะพะรุงพะรังมาก น้องเต็มใจที่จะช่วยถือขยะ เอาไปทิ้งให้ นี่คือสิ่งที่ต้องยอมรับนะคะ ว่าสถาบันนี้สอนดีจริงๆ เราไม่ได้พบนิสัยอย่างนี้แค่คนเดียว แต่พบเห็นได้โดยทั่วไปตลอดงาน เรียกได้ว่าที่นี่เค้ามีน้ำใจเต็มใจให้บริการเป็นวัฒนธรรมกันไปเลยค่ะ ขอปรบมือดังๆ ชื่นชมๆค่ะ

สุดท้ายนี้ แม้เกือบจะไม่ได้เหรียญเพราะความไม่มีสติของเราเองแล้ว เลยได้บทเรียนเพิ่มเติมว่า จงเตรียมทุกอย่างให้พร้อมในวันนี้ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้ ความไม่พร้อมของเราจะทำให้เป้าหมายเปลี่ยนแปลงไปแบบไม่สามารถหวนคืนมาได้อีกหรือไม่ เราคงไม่ได้โชคดีหาบิบได้ในทุกครั้งหรอกนะคะ จริงไหม

ขอให้เพื่อนนักวิ่งจงเตรียมทุกอย่างให้พร้อมในทุกการฝึกซ้อมและทุกการแข่งขันกันนะคะ

4 Jun 17

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: