อย่าเอาเงินเป็น ตัวชี้ขาด แต่จงเอาความสามารถเป็นตัวชี้นำ

ระยะซ้อมของเมื่อวาน ถูกยืดมาวิ่งวันนี้ วันที่เรารอคอยจะได้วิ่งงานนี้ค่ะ Unicef Line Run ที่สวนหลวง ร. 9 เพราะคาแรคเตอร์ไลน์ที่น่ารัก ทำแบบเสื้อและเหรียญออกมาน่ารัก เสื้อมีประเป๋าเล็กให้ด้วยค่ะ ชอบมาก ณ จุดนี้ ไกลขนาดนี้ ก็ยอมมาค่ะ ค้างห้องเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆเอาค่ะ

แม้ราคาค่าสมัครออกจะแพงไปมากคือ 1,000 บาททุกระยะ แต่เพราะนอกจากได้ทำบุญให้เด็กน้อยแล้ว ยังได้รับใบเสร็จไว้ลดหย่อนภาษีด้วย นอกจากนั้นก็มีแก้วน้ำพลาสติกเพิ่มมาให้อีก 1 กระบอกค่ะ

งานนี้รู้อยู่แล้วว่าเป็นการระดมทุนให้กับองค์กร Unicef ที่เป็นที่รู้จักกันดี ซ้ำยังจับมือกับการ์ตูนไลน์ ทำให้เป็นที่สนใจของนักวิ่งจำนวนมาก แถมยังไม่มีรางวัลให้คนวิ่งเร็ว แต่มีให้กับทีมที่สามารถรวบรวมเงินบริจาคได้สูงสุด ก็แปลกดีค่ะ ไม่เหมือนงานอื่น และทำให้เห็นเป้าหมายที่ชัดเจนของผู้จัดค่ะ

แต่…งานลักษณะนี้ ก็เป็นเหมือนอีกหลายๆงานที่จัดพักหลังนี้ค่ะ ทำให้ผิดหวังไม่น้อยค่ะ เป็นอีกหนึ่งงานที่หนีไม่พ้นการจับนักวิ่งเป็นตัวประกัน ใช้การจัดงานวิ่งเป็นตัวล่อ ใช้ภาพนักวิ่งเป็นฉากหลังเพื่อระดมทุนทำยอด โดยไม่สนใจนักวิ่งว่าสภาพจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะตอนหลังวิ่งค่ะ

วันนี้เราลงวิ่ง 5 กิโลเมตรขำๆเอาไว้ เพราะระยะซ้อมคือ 6.4 กิโลเมตร เดี๋ยววิ่งเพิ่มเองได้ ไหนๆก็มาสวนสาธารณะแล้ว เรามาถึงงานช้า ไม่ทันเวลาปล่อยตัว เพราะมีการปิดถนนสำหรับนักวิ่งกิตติมศักดิ์ ยืดๆเหยียดๆได้ไม่เท่าไร พิธีกรบนเวทีก็ไล่ให้ 5 กิโลเมตรที่เหลืออยู่ในบริเวณงานออกวิ่งไปให้หมด เพราะ 2.5 กิโลเมตรกำลังจะปล่อยตัวแล้ว เราเลยออกวิ่งเหยาะๆไปเป็นการอบอุ่นร่างกาย

ผลปรากฎว่า คนเยอะมากค่ะ เต็มทางวิ่ง แถมทางวิ่งที่จัดไว้ก็เป็นทางเล็ก ไม่ใช่ทางใหญ่ในสวนค่ะ มองไปรอบตัว เห็นมีแต่เพื่อนนักวิ่งเต็มไปหมดค่ะ งานนี้ที่ต้องวิ่ง Short คือหนักสัก 60% – 70% ของความหนักสูงสุด ก็เป็นอันต้องพับไปค่ะ เปลี่ยนมาเป็นวิ่งวิบากแทน ฝึกหลบสิ่งกีดขวางค่ะ เพราะปกติเพื่อนๆนักวิ่ง 5 กิโลเมตร ก็จะเดินๆวิ่งๆกันอยู่แล้ว ยิ่งมาเจองานที่ทางวิ่งแคบมาก และคนเต็มพื้นที่วิ่ง เลยยิ่งทำให้การวิ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากไปเลยค่ะ

เราเลยวิ่งไปหยุดถ่ายรูปไป แรกๆยังชิวๆอยู่ เพราะป้ายบอกทางเค้าน่ารักดี และมีเยอะมาก มีจุดตั้งป้ายให้ถ่ายรูปแต่ตอนวิ่งรอบแรก คนหยุดถ่ายรูปเยอะมาก จนทำให้ไม่มีที่ให้วิ่ง ต้องหยุดเดินแทรกๆไป เจ้าหน้าที่ก็ยืนเฉยๆ ไม่ช่วยเคลียร์ แต่ก็คิดว่าขำๆไปแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรค่ะ วิ่งๆตามป้ายไปจนสุดท้าย มาถึงทางแยกที่บอกว่า 10 กิโลเมตรตรงไป ส่วน 5 กิโลเมตรให้เลี้ยวขวาเข้าเส้นชัย ก็เป็นอันตกใจมาก เพราะตอนนั้น App จับระยะได้แค่ 4.39 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ เลยงงมากว่าเอ๊ะยังไง เราวิ่งผิดทางหรือเปล่า แต่เราก็วิ่งตามป้ายมาตลอดนะคะ รับเหรียญมาแบบงงๆ และยิ่งงงมากขึ้นเมื่อเจอขนาดเหรียญที่เล็กและบางเบา นี่เข้าใจมาตลอดว่า เหรียญที่ตั้งใจเดินทางมาไขว่คว้านี้จะมีขนาดเท่าๆกับเหรียญงานอื่น เลยผิดหวังตลบสอง ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปวิ่งต่อให้ครบระยะ แล้วค่อยมาหาไรทานให้อิ่มท้อง สมองจะได้ไม่ก่อกวนความผิดหวังมากนัก ค่ะ

ไปวนต่อรอบสอง ป้ายต่างๆคนเริ่มน้อย เลยขอถ่ายรูปเพิ่มเติม ยังเห็นความน่ารักของมันอยู่ค่ะ จนครบระยะจริงๆ เดินกลับมาที่บริเวณงาน ตั้งใจจะหาของกิน ตกใจจนแทบจะหงายหลัง ก็นักวิ่งที่รอคิวเข้าเส้นชัย จนแถวจะยาวออกประตูอยู่แล้วนั่นคืออะไร นี่ไม่นับจำนวนคนที่ยืนเต็มพื้นที่บริเวณงาน เหมือนยืนดูคอนเสิร์ตยังไงยังงั้น เรียกได้ว่าจะแทรกตัวเข้าไปเอาน้ำ เอาขนมก็ไม่สามารถทำได้ แอบมองๆถุงพลาสติกใสในมือเพื่อนๆนักวิ่งคนอื่น มีแต่ขนมปังเลอแปง 1 ชิ้น ที่เหลือเป็นน้ำเกลือแร่ 2-3 ขวด มีแจกยาสีฟัน กับแชมพูอีกเล็กน้อย ไม่เห็นมีใครถือของกินที่เป็นชิ้นเป็นอันออกมาเลย เลยตัดสินใจรีบเดินออกประตูดาวเรือง เพื่อไปเรียกรถแท๊กซี่ค่ะ

ปกติรถแท๊กซี่บริเวณนี้ก็หายากมากอยู่แล้ว เดินออกไปที่ถนน เจอภาพปิดถนน โล่งโจ้งค่ะ ไม่มีรถสักคัน สองจิตสองใจเอาไงดี จะเดินกลับไปทางออกฝั่งซีคอนดีไหม แต่ก็เลือกเดินไปตามทาง มุ่งหน้าอุดมสุข ยังคิดดีว่า เดี๋ยวพอเปิดถนน คงมีแท๊กซี่ผ่านมาบ้าง ไม่งั้นมอไซค์รับจ้างตามซอยก็คงจะมี เลยเดินรอเวลาไปเรื่อยๆค่ะ จนถนนเปิดแล้ว รถวิ่งก็แล้ว ไม่มีวี่แววแท๊กซี่ว่างสักคัน ที่วิ่งผ่านไปก็นับคันได้ ไม่มีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ถ้ามีวิ่งผ่านก็มีคนนั่ง รถสองแถวก็มา แต่คนเต็มเอี๊ยด ป้ายรถเมล์ก็มี แต่ไม่มีรถเมล์ นี่มันคืออะไรเนี่ยกลายเป็นว่า เราต้องใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง เดินมาจนจะถึงแยกมุ่งหน้าอุดมสุข ระยะทางก็เกือบๆจะ 4 กิโลเมตร โชคดีมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างผ่านมา โบกแล้วน้องพาไปสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุขได้ เลยโชคดีไปค่ะ กลายเป็นว่าวันนี้เก็บได้ระยะมินิกันเลยทีเดียว ใช้เวลาวิ่งจริงไป 40 นาที แต่กว่าจะถึงบ้าน ใช้เวลา 2 ชั่วโมงค่ะ เข็ดไปอีกนานกับงานนี้ค่ะ ยังมีความโชคดีที่ระหว่างทางมีร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้งและ 7-11 ค่ะ เลยรอดพ้นสภาพนักวิ่งหิวโซไปได้ค่ะ

เรื่องพิธีกรนี่ก็อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ประทับใจค่ะ ตอนที่เราไปถึง ปล่อยตัว 5 กิโลเมตรกันไปแล้ว และระยะ 2.5 กิโลเมตร กำลังวอร์มอัพอยู่หน้าเวที พิธีกรชายช่างมันปาก ยืนอยู่บนเวที แซวนักวิ่งระยะนี้ว่า ให้ยกขาระวังจะเป็นลม นักวิ่งชายคนหนึ่งต้องลงระยะนี้เพราะพาอาม่ามาวิ่งด้วย พอเป็นระยะนี้ หน่วยแพทย์จากที่นั่งเฉยๆต้องรีบลุกมารวมกันอยู่ที่นี่ และอื่นๆอีกมากมาย จนพิธีกรหญิงต้องแก้ให้ตลอด แสดงให้เห็นว่า พิธีกรชายไม่ใช่นักวิ่ง ระยะวิ่ง 2.5 กิโลเมตร อาจดูเล็กน้อย แต่ก็เป็นระยะที่เหมาะกับนักวิ่งขาใหม่ นักวิ่งเด็กๆ นักวิ่งครอบครัว นักวิ่งที่เพิ่งมาเริ่มวิ่งใหม่หลังการบาดเจ็บ ไม่ใช่ระยะที่จะมาดูถูกกันแบบนี้น่ะค่ะ น่าเสียใจแทนพิธีกรชายจริงๆที่ไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกมาบ้าง เราไม่ได้อยู่ที่งานก่อนหน้านั้น และหลังจากนั้น เลยไม่รู้ว่าเค้าพูดอะไรอีกบ้าง แต่ที่แน่ๆทำให้เราอยากวิ่งออกจากตรงนั้นมาค่ะ เพราะทนฟังไม่ได้เลยจริงๆ

วันนี้จบระยะ 6.41 กิโลเมตร ไปด้วยเวลา 40.09 นาที กับความเร็ว 6.16 นาทีต่อกิโลเมตรค่ะ ไม่สามารถวิ่งความเร็วตามแผนซ้อมได้ เพราะเหตุการณ์ไม่เป็นใจค่ะ

งานนี้ได้ยินมาว่า รับนักวิ่งถึง 8,000 คน ซึ่งไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่สวนที่ทางวิ่งเล็กและคับแคบมากค่ะ แถมที่จอดรถไม่พอ รถติดกันยาวเหยียดหลายชั่วโมงหลังงานเลิก คนเยอะเต็มพื้นที่จัดงาน เบียดเสียดกัน ล้วนแต่เกิดจากการรับจำนวนคนที่มากเกินไปค่ะ

งานนี้มีดีจริงๆคือขั้นตอนการรับสมัครตั้งแต่ต้นจนถึงรับเสื้อ เสื้อสวย มีน้ำตลอดทางไม่ขาด แค่นี้ค่ะ ที่เหลือ…ถือว่าไม่ผ่านเลยค่า

ใช่ค่ะ หลายคนบอกว่าทำบุญ แต่ก็หวังจะให้ผู้จัดได้บุญมากกว่าได้บาปนะคะ การระดมทุนแบบนี้ มีให้เห็นทั่วไปในหลายรูปแบบ เราผู้ร่วมบุญต่างยินดีจะให้อยู่แล้ว แค่ขอผู้จัดอย่าเห็นแก่เงินมากไปจนเกินความสามารถในการจัดงานของตัวเองค่ะ งานวิ่งที่ต้อง “เดิน”เพราะทางแคบ และคนเยอะเกินไป งานวิ่งที่วิ่งเข้าเส้นชัยไม่ได้ งานวิ่งที่ไม่มีการจัดการเรื่องการจราจร งานวิ่งที่ไม่มีของกินให้ ล้วนแต่คือการเอาเปรียบทั้งนั้นค่ะ ผู้จัดควรดูความสามารถของตนเอง ดูความสามารถของสถานที่ ว่าพร้อมรับกับนักวิ่งจำนวนเท่าไรได้นะคะอย่าเน้นแต่ปริมาณคนเลยค่ะ สรุปรวมแล้ว ความรู้สึกที่เสียไป มากกว่าเงิน 1,000 ที่เสียไปหลายล้านเท่าค่ะ แต่อย่างน้อยก็ขอให้เงิน 1,000 บาทนี้ มีส่วนช่วยเหลือเด็กๆได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วกันค่ะ

จบการรอคอยด้วยความผิดหวังค่ะ

ขอให้เพื่อนนักวิ่ง เจองานดีๆ ไม่ผิดหวังอย่างเรานะคะ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: