กล้าที่จะวิ่ง กล้าที่จะให้

ในช่วงเวลาที่เรากำลังบ้าวิ่ง Virtual run จนเริ่มจะเบื่อ เพราะลักษณะงานเดิมๆคือ กำหนดระยะทางให้วิ่งให้ครบ แล้วก็จะได้รางวัลไป เป็นรางวัลที่เราออกเงินสมัคร และได้มาเป็นของตัวเอง อาจจะเป็นงานที่มีหรือไม่มีการบริจาคให้ใคร และส่วนใหญ่จะพบว่าไม่มีการกุศล จนมาเจอกับงาน Virtual run งานนี้ ทำให้เราควักเงินจ่ายเพื่อเข้าร่วมได้อย่างสบายใจมากขึ้น งานนี้ไม่มีตัวเลขระยะทางกำหนดให้เก็บ เพราะเราสามารถวิ่งมากเท่าไรก็ได้ เพียงแต่ทุกระยะทาง 1 กิโลเมตรที่วิ่งได้ จะกลายเป็นเงินบริจาค 1 บาท มอบให้กับมูลนิธิคนพิการไทย (สูงสุด 500,000 บาท) เพื่อนำไปทำวีลแชร์มูลค่า 6,000 บาทต่อคัน

ชื่องานนี้คือ “Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2018 – Virtual Run” เริ่มเก็บระยะกันตั้งแต่ 26 กรกฎาคม – 25 ตุลาคม 2561 จัดโดยบริษัทประกันภัย Allianz Ayudhya ตามชื่องานเลยค่ะ นอกจากจะได้เงินบริจาคแล้ว ทุก 1 กิโลเมตรที่วิ่งได้ จะกลายเป็น 10 แต้มในแอพพลิเคชัน Healthy Living ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ และสามารถนำคะแนนที่ได้ไปแลกของรางวัลมากมาย

การเข้าร่วมวิ่งมี 2 ประเภท ประเภทแรกคือทีมร่วมด้วยช่วยวิ่ง (Free Runner) ไม่ต้องเสียค่าสมัคร และประเภทที่สองคือ ทีมร่วมด้วยช่วยบริจาคและช่วยวิ่ง (Donator) มีค่าสมัครและบริจาค 450 บาท แบ่งเป็นเงินสมทบทุนบริจาค 100 บาท ให้กับมูลนิธิเพื่อคนพิการไทย โดยนักวิ่งที่ร่วมบริจาคเงินจะได้รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก พร้อมประกันอุบัติเหตุจากอลิอันซ์ ประกันภัย ซึ่งให้ความคุ้มครองนานกว่า 90 วัน เริ่มตั้งแต่ 26 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2561

109 กล้าที่จะวิ่ง กล้าที่จะให้ 2

เนื่องจากเราสมัครหลังวันที่ 20 ก.ค. 61 จึงไม่สามารถเลือกให้ส่งเสื้อทางไปรษณีย์ได้ เราจึงต้องไปรับเสื้อและเหรียญที่กิจกรรม Kick off ซึ่งจัดที่สวนลุมพินี วันที่ 26 กรกฎาคม 61 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งในเวปไซท์ได้บอกไว้แค่ว่า รับเสื้อและเหรียญ ส่วนกิจกรรม Kick off เราเข้าใจเอาเองว่า คงมีการจัดซุ้มอะไรบางอย่างให้ร่วมสนุกสนาน เราก็แค่ไปรับเสื้อและเหรียญกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกก็พอ แต่เราก็คิดว่าไหนๆก็ไปสวนลุมแล้ว เตรียมชุดไปวิ่งต่อเลยก็น่าจะดี กลายเป็นว่าพอไปถึง เจ้าหน้าที่แจกแต่เสื้อ ไม่แจกเหรียญ บอกว่าต้องร่วมวิ่ง 5 กิโลเมตรก่อน ถึงค่อยได้รับเหรียญ เราก็แอบเคืองๆนิดหนึ่งว่า ในเวปไซท์ ไม่เห็นบอกว่าต้องเข้าร่วม บอกแค่ให้มารับเสื้อและเหรียญเท่านั้น ว่ากันตามจริงแล้ว เราจะขอรับไปเลยก็ได้ แต่ก็เห็นว่าเราเองก็เตรียมชุดมาแล้ว จึงยอมเข้าร่วม ไปเปลี่ยนเสื้อมา เสื้อก็ตัวใหญ่กว่าที่ลงทะเบียนไว้พอสมควร แต่ชอบคำพูดข้างหลังเสื้อที่สกรีนคำว่า “Dare to move” ใหญ่ๆเอาไว้มากกว่า เป็นพลังให้ใจได้ดี

109 กล้าที่จะวิ่ง กล้าที่จะให้ 3

ก่อนการปล่อยตัวทางผู้จัดได้แจ้งว่าจะปล่อยตัวตามสีบิบที่ได้รับ ดูลักษณะงานเหมือนทางผู้จัดเกณฑ์พนักงานมาเข้าร่วมเยอะพอสมควร และเป็นการจัดกิจกรรมภายในบริษัทด้วย จึงมีการแยกสีเหมือนกีฬาสี ปล่อยตัวตามสี เพื่อป้องกันคนไปวิ่งออหรือเบียดกัน พนักงานเองก็ดูตื่นเต้น ทำให้คึกคักกันน่าดู ซึ่งก็เป็นบรรยากาศงานที่น่ารักดีนะคะ

นอกจากนี้ทางผู้จัดยังแจ้งว่า นักวิ่งที่วิ่งเข้าเส้นชัยก่อน อันดับที่ 1 – 20 แยกชายหญิง (จำอันดับไม่ได้ว่ามีแจกกี่อันดับ แต่คุ้นๆว่าประมาณนี้) จะได้รับผ้าขนหนูเพิ่มอีกคนละหนึ่งผืน อันนี้ก็แอบน่าสนใจ เราก็ประเมินคนมาร่วมวิ่ง ดูเป็นพนักงานในบริษัทซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่นักวิ่งขาวิ่งแบบเรามากนัก เลยคิดว่าน่าจะมีโอกาสคว้าผ้าขนหนูมาเล่นๆ จริงๆก็แค่เพิ่มกำลังใจในการวิ่งให้มีมากขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อย พอปล่อยตัวเราก็สับขาเลย แค่ 5 กิโลเมตร วิ่ง 2 รอบสวนลุมเอง สำหรับเราสบายมาก และก็เป็นไปตามคาด เราเข้าเป็น 1 ใน 20 คนที่ได้รับผ้าขนหนูไปตามระเบียบ

109 กล้าที่จะวิ่ง กล้าที่จะให้ 6

หลังจากเข้าเส้นชัย ได้รับเหรียญแล้วก็รู้สึกร้อนมาก เดินหาน้ำมาดื่มแล้วก็เหลือบไปเห็นมีไอสกรีมแท่งรสชาเย็นที่เราโปรดปรานด้วย เลยคว้ามาทานสองแท่ง ส่วนของกินเป็นอะไรเราก็จำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่าได้ทานจนอิ่ม แล้วค่อยกลับบ้านอย่างสบายท้อง

109 กล้าที่จะวิ่ง กล้าที่จะให้ 7

การวิ่งระยะทาง 5.32 กิโลเมตรวันนี้ ใช้เวลาไปเพียง 31.06 นาที ความเร็วเฉลี่ย 5.51 นาทีต่อกิโลเมตร ความเร็วนี้เพราะผ้าขนหนูเลยนะเนี่ย

109 กล้าที่จะวิ่ง กล้าที่จะให้ 8

การเก็บระยะทางของงานนี้ทำได้ง่าย เพียงแค่ไปทำการเชื่อมต่อระหว่างแอพพลิเคชัน Healthy Living กับแอพพลิเคชันที่เพื่อนๆใช้วิ่งเก็บระยะที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ซึ่งเราใช้ Endomondo เชื่อมกับนาฬิกา Garmin อยู่แล้ว และเพียงเข้าไปกดร่วม Challenge ใน Endomondo เมื่อเราทำการซิงค์ข้อมูลจากนาฬิกาลง Endomondo ระยะทางรวมไม่ว่าจะเป็นวิ่ง Outdoor หรือ Indoor ก็จะไปอัพเดทใน Challenge อัตโนมัติ สบายมากๆเลยค่ะ

109 กล้าที่จะวิ่ง กล้าที่จะให้ 9

จากวันที่ 26 กรกฎาคม 61 มาจนถึงวันนี้ที่จบโครงการคือวันที่ 25 ตุลาคม 61 เราวิ่งได้ระยะทาง 627 กิโลเมตร และมันจะกลายเป็นเงิน 627 บาทที่มูลนิธิคนพิการไทยจะได้รับไป รวมกับเงินอีก 100 บาท ค่าสมัคร ก็จะเป็น 727 บาท แม้จำนวนเงินจะดูเล็กน้อย แต่เมื่อมันมาจากน้ำพักน้ำแรงของเราแล้ว เราว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจมหาศาล จนประมาณไม่ได้ ส่วนตัวเราเองไม่เคยร่วมวิ่งเพื่อเก็บระยะแลกเป็นเงินแบบนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก จึงรู้สึกภูมิใจไม่ใช่น้อย และถ้าหากเงินก้อนเล็กๆก้อนนี้ ไปรวมกับเงินก้อนเล็กๆก้อนอื่นจากนักวิ่งที่เข้าร่วมจำนวน 20,000 กว่าคน มันก็คงเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย และคงยิ่งมีคุณค่ามากขึ้นไปอีกหากได้กระจายไปให้กับคนที่มีความเดือดร้อนและต้องการใช้มันจริงๆ

109 กล้าที่จะวิ่ง กล้าที่จะให้ 10

หากดูตามลำดับใน Endomondo แล้ว ก็ถือว่าเราอยู่ลำดับต้นๆเลย คืออันดับที่ 1208 จากนักวิ่งทั้งหมด 20,000 กว่าคน นับถือคนที่ได้อันดับ 1 ที่วิ่งไปได้ 2,600 กว่ากิโลเมตร ในเวลาเพียง 2 เดือน คงจะเป็นนักกีฬามืออาชีพแน่ๆเลย ขอปรบมือให้กับความทุ่มเทของนักวิ่งทุกคนมา ณ โอกาสนี้ค่ะ

แม้จะจบไปอีกหนึ่งงาน และจะมีงานอื่นๆตามมาอีกมากมาย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีโอกาสเข้าร่วมงานวิ่งการกุศลลักษณะนี้ รับรองว่าเราไม่พลาดแน่นอน

ขอให้เพื่อนนักวิ่งได้ใช้แรงจากขาของเราสร้างโอกาสให้กับผู้อื่นกันมากๆนะคะ

25 ตุลาคม 61

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: