Explore the Knowledge for Runner
ถึงเวลาที่จะต้องวิ่งวัดใจระหว่างทางซ้อมวิ่งฟูลมาราธอนอีกวาระหนึ่ง คราวนี้คืองานวิ่ง 10 กิโลเมตร ใช้ฝีเท้าเท่าที่มันจะพาเราไปไหว เราไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่าไม่เกินเพซ 6 แต่ก็จะดูร่างกายของตัวเองเป็นหลักเอาไว้ก่อนนั่นแหละ วันนี้อยากจะขอวิ่งตามใจของตัวเองไปเรื่อยๆ มาดูกันซิว่าเราจะทำได้แค่ไหน
เสื้อวิ่งและบิบถูกส่งมาทางไปรษณีย์ เราก็เตรียมตัวไว้ให้พร้อมเท่านั้นเอง เลือกงานนี้เพราะออกแบบเสื้อและเหรียญได้น่ารักน่าสนใจดีแท้
งานนี้เป็นงานวิ่งประจำปีของบริษัท อเมซิ่ง ฟิลด์ จำกัด ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 29 และรายได้ก็จะนำไปทำบุญให้กับ UNAIDS และองค์กรการกุศลต่างๆ และยังมีการวิ่งของเด็กจิ๋วเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร ส่วนของผู้ใหญ่มีระยะฟันรันและระยะมินิมาราธอน บริเวณจัดงานคือบริเวณสำนักงานสหประชาชาติ
งานนี้ปล่อยตัวระยะมินิเวลา 5.00 น. การปล่อยตัวมีแยกสองฝั่งคือฝั่งชายและฝั่งหญิงซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่ต้องไปเบียดเสียดกัน แต่พอปล่อยออกมาแล้วก็ต้องวิ่งรวมกันไปบนถนนราชดำเนินนอกอยู่ดี โชคดีที่ถนนราชดำเนินนอกค่อนข้างกว้างขวาง แต่ที่น่าแปลกใจคือ พอวิ่งเข้าสู่ถนนศรีอยุธยาอ้อมสวนจิตรลดาเข้าถนนสวรรคโลก กลับลดทางวิ่งลงเหลือถนน 1 เลน ซ้ำยังบังคับให้วิ่งโดยใช้เสียงเบาและไม่ออกนอกเลน เราบอกได้เลย ว่าเราเป็นคนหนึ่งที่วิ่งออกนอกเลน จะให้ทำอย่างไรได้ ทางวิ่งมันไม่พอจริงๆ นักวิ่งที่ช้ากว่าเราก็จะวิ่งอยู่ซ้ายสุด หากจะแซงก็ต้องอยู่ขวาเท่านั้น แล้วเราก็ต้องวิ่งแซงคนส่วนใหญ่เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายซะด้วย หลังจากนั้นก็วิ่งเข้าสู่ถนนสุโขทัย ไปถนนสามเสน เริ่มตีเป็นวงกลมแล้ว จริงๆเราชอบเส้นทางนี้มาก เลยเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เราอยากกลับมาวิ่งอีก เราว่าเส้นทางแถวนี้เป็นเส้นทางกรุงเก่า มันมีเสน่ห์และบรรยากาศเฉพาะตัว ทำให้ไม่เคยเบื่อ หลังจากถนนสามเสนแล้วก็วิ่งเข้าถนนพระสุเมรุ ถนนดินสอ วิ่งผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มุ่งหน้ากลับสู่ UN อีกรอบ โดนกักนิดหน่อยที่แยกก่อนถึง UN เท่านั้นก็เข้าเส้นชัยเรียบร้อย
มีเสียงเรียกตรงทางใกล้เข้าเส้นชัย พี่พงษ์แห่ง Papa Colorful นั่นเอง นึกว่าจะไม่มา แต่ตอนนั้นเรากำลังเร่งฝีเท้าวิ่งเข้าเส้นชัยอย่างเมามัน หน้าตาเลยดูเหน็ดเหนื่อยไปสักนิดนึง
การจัดการงานของอเมซิ่ง ฟิลด์ เป็นไปด้วยดีตามมืออาชีพ เราเข้าเส้นชัยแล้วก็เดินไปรับข้าวกล่องมาทานไปด้วย ยืดกล้ามเนื้อไปด้วย วันนี้เราทำเวลาได้ดี แล้วก็มีนัดต่อด้วย เลยต้องรีบกลับไปนอน
เหรียญของงานนี้ก็สวยงามเป็นรูปเดียวกับเสื้อวิ่ง ผู้หญิงกับผู้ชายวิ่งด้วยกันเป็นลายไทย เราไม่ได้อยู่ดูเด็กน้อยวิ่งเหมือนทุกที
เราวิ่งจบระยะ 10.45 กิโลเมตรไปด้วยเวลา 1:02:31 ชั่วโมง จริงๆก็เกือบจะพ้นเพซ 6:00 ไปซะแล้ว ถ้าคิดว่าวันนี้เน้นวิ่งโซน 4 นี่ก็เป็นความเร็วที่เราคาดหวังไว้แล้ว
อุณหภูมิระหว่างการวิ่งวันนี้ถือว่าสบายมากคือ 27 – 31 องศา และความชันที่ได้มาเหมือนเราวิ่งลงสู่ที่ต่ำตลอดเวลา ก็ออกจะแปลกๆไปสักหน่อย และโซนหัวใจก็ไม่น่าแปลกใจที่อยู่ที่โซน 4 เป็นส่วนใหญ่
งานนี้อาจจะเป็นการบันทึกที่สั้นที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมา คงเป็นเพราะว่าตั้งใจมาวิ่งและตั้งใจกลับ มาเอาระยะทาง มาเอาสถิติ มาเอาความสะใจที่ได้มาพร้อมกับเสียงลมหายใจหอบหนักและแรงกระแทกที่ข้อเท้า มาเพียงเพื่อสิ่งนี้จริงๆ การขยับร่างกายเพื่อให้ซึมซับเข้าไปถึงจิตใจ นั่นคือคำนิยามของคำว่าวิ่งด้วยหัวใจ
ขอให้เพื่อนนักวิ่งวิ่งด้วยใจที่สบายกันนะคะ
28 ต.ค. 61
Recent Comments