ท่าออกกำลังด้วยยางยืดวงกลม (Loop Band) สำหรับนักวิ่ง ชุดที่ 2 (ท่ายืน)
Posted on February 23, 2019
by joylyrunning
Leave a Comment
ท่าออกกำลังด้วยยางยืดวงกลม (Loop
Band) สำหรับนักวิ่ง ชุดที่ 2 (ท่ายืน)
มาถึงท่าออกกำลังกายชุดที่ 2 ด้วยยางยืดวงกลมกันแล้วนะคะ ก่อนที่จะเริ่มทำ ขอให้เพื่อนๆกลับไปอ่านหัวข้อ “ท่าออกกำลังด้วยยางยืดวงกลม (Loop Band) สำหรับนักวิ่ง ชุดที่ 1 (ใช้เสื่อออกกำลังกาย)” เพื่อทราบหลักการใช้ยางยืดวงกลมอย่างถูกวิธีกันก่อน หรือถ้าจะให้ดี ก็เริ่มออกกำลังด้วยชุดที่ 1 ก่อน เพราะว่าง่ายกว่าและเป็นพื้นฐานให้กับท่าในชุดที่ 2 จะได้เพิ่มความปลอดภัย ไม่บาดเจ็บกันไปเสียก่อน เมื่ออ่านกันมาแล้วเรียบร้อย ก็มาเริ่มออกกำลังกายกันได้เลย
หลักการออกกำลังด้วยยางยืดวงกลม
- เพื่อนๆสามารถใช้การออกกำลังกายชุดนี้คละกับการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงชนิดอื่นร่วมด้วยได้
- เพื่อนๆอาจแบ่งการออกกำลังเป็น 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยที่ชุดที่ 1 เล่นท่าที่อยู่บนเสื่อออกกำลัง และชุดที่ 2 เล่นเฉพาะท่ายืน
- หากเพื่อนๆยังทำได้ไม่เก่ง ให้ใส่ยางยืดที่ระดับเหนือเข่า เพิ่มความยากโดยการลดระดับความสูงของยางยืด ลงมาที่ระดับหน้าแข้ง ข้อเท้า และเท้า ตามลำดับ ยิ่งยางยืดอยู่ต่ำ ยิ่งยาก
- ทุกท่าที่เพื่อนๆออกกำลัง ให้แขม่วท้อง ลำตัวตรงตลอดเวลา หากเป็นท่านอนตะแคง แนวหัวไหล่ สะโพก และข้อเท้าต้องอยู่ตรงกัน หากเป็นท่าตั้งคลาน มือต้องอยู่ใต้หัวไหล่ เข่าต้องอยู่ใต้สะโพก และหากเป็นท่ายืน มองทางด้านข้าง แนวของใบหู หัวไหล่ สะโพก เข่า และข้อเท้า ต้องอยู่แนวเดียวกันตลอดค่ะ
- เริ่มต้นทำท่าละ 10 ครั้ง พักระหว่างท่าอย่างน้อย 30 วินาที แล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนครั้งไปให้ถึง 30 ครั้ง แล้วค่อยเพิ่มระดับความหนืดของยางยืด
ท่าที่ 1 ท่ายืนย่อเข่า
ประโยชน์: บริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักในการรับน้ำหนักร่างกายขณะวางเท้าลง
ระดับยางยืด:
เหนือข้อเข่าเล็กน้อย
- ยืนตรง เท้ากางเท่าระดับสะโพก แขนแนบข้างลำตัว
- ยกแขนไปทางด้านหน้าขนานพื้น ค่อยๆย่อเข่าลง จนปลายเข่าอยู่เท่ากับระดับปลายเท้า แล้วจึงทิ้งก้นไปทางด้านหลังเหมือนจะนั่งเก้าอี้ ตลอดเวลาที่เคลื่อนไหว ให้ออกแรงดันเข่าสองข้างออกทางด้านนอก ให้รู้สึกถึงแรงตึงของยางยืดตลอดเวลา ย่อลงจนไม่สามารถย่อลงไปได้อีก หรือจนกว่าต้นขาขนานพื้น ไม่ก้มหรือโน้มตัวไปทางด้านหน้า
- ค่อยๆเหยียดเข่ากลับมายืนสู่ท่าเริ่มต้น
ท่าที่ 2 ท่ายืนยกขาด้านหน้า
ประโยชน์:
บริหารกล้ามเนื้องอสะโพก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักในยกขาขึ้นเพื่อก้าวไปข้างหน้าขณะวิ่ง
ระดับยางยืด:
เหนือเข่าเล็กน้อย หรือปลายเท้า
- ยืนตรง
เท้ากางเท่าระดับสะโพก มือท้าวเอว
- ถ่ายน้ำหนักไปเหยียบที่ขาข้างขวา
โดยที่ตัวยังตรงอยู่ ไม่เอียงซ้ายหรือขวา
- ค่อยๆยกขาซ้ายขึ้น
โดยการดึงเข่าขึ้นไปทางเพดาน จนสูงระดับสะโพก เข่าชี้ตรงไปข้างหน้า
ไม่บิดเข้าบิดออก กระดกข้อเท้าไว้ตลอดเวลา ตัวตรงตลอดเวลา
- ค่อยๆวางขาลงกลับมายืนสู่ท่าเริ่มต้น สลับข้าง
ท่าที่ 3 ท่ายืนกางขาด้านข้าง
ประโยชน์: บริหารกล้ามเนื้อกางสะโพก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักในการรับน้ำหนักช่วงที่ยืนขาเดียวขณะวิ่ง
ระดับยางยืด:
เหนือเข่าเล็กน้อย หรือข้อเท้า
- ยืนตรง
เท้ากางเท่าระดับสะโพก มือท้าวเอว
- ถ่ายน้ำหนักไปเหยียบที่ขาข้างขวา
โดยที่ตัวยังตรงอยู่ ไม่เอียงซ้ายหรือขวา
- ค่อยๆกางขาซ้ายขึ้นทางด้านข้าง
โดยที่ปลายเท้าบิดออกด้านนอกเพียงเล็กน้อย เข่าเหยียดตรงตลอดเวลา
- ค่อยๆวางขาลงกลับมายืนสู่ท่าเริ่มต้น
สลับข้าง
ท่าที่ 4
ท่าเตะขาไปด้านหลัง
ประโยชน์:
บริหารกล้ามเนื้อเหยียดสะโพก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักในช่วงถีบขาไปด้านหลัง
และส่งตัวไปด้านหน้าขณะวิ่ง
ระดับยางยืด:
เหนือเข่าเล็กน้อย หรือข้อเท้า
- ยืนตรง
เท้ากางเท่าระดับสะโพก มือท้าวเอว
- ถ่ายน้ำหนักไปเหยียบที่ขาข้างซ้าย
โดยที่ตัวยังตรงอยู่ ไม่เอียงซ้ายหรือขวา
- ค่อยๆเตะขาขวาไปด้านหลัง
เข่ายังเหยียดตรง ข้อเท้ากระดกไว้ตลอดเวลา ตัวตรง ไม่ก้มไปข้างหน้า ไม่กางขาออกทางด้านข้าง
- ค่อยๆวางขาลงกลับมายืนสู่ท่าเริ่มต้น
สลับข้าง
ท่าที่ 5 ท่าเตะขาไปด้านหน้า
ประโยชน์: บริหารกล้ามเนื้องอสะโพก และกล้ามเนื้อเหยียดเข่า ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักในช่วงการยกขาและเตะขาไปด้านหน้าก่อนการวางเท้าขณะวิ่ง
ระดับยางยืด:
เหนือเข่าเล็กน้อย หรือข้อเท้า
- ยืนตรง
เท้ากางเท่าระดับสะโพก มือท้าวเอว
- ถ่ายน้ำหนักไปเหยียบที่ขาข้างซ้าย
โดยที่ตัวยังตรงอยู่ ไม่เอียงซ้ายหรือขวา
- ค่อยๆเตะขาขวาไปด้านหน้า
เข่ายังเหยียดตรง ข้อเท้ากระดกไว้ตลอดเวลา ตัวตรง ไม่เอนไปข้างหลัง ไม่กางขาออกทางด้านข้าง
- ค่อยๆวางขาลงกลับมายืนสู่ท่าเริ่มต้น
สลับข้าง
ท่าที่ 6 ท่ายืนย่อ
และบิดเข่าออกด้านข้าง
ประโยชน์: บริหารกล้ามเนื้อบิดข้อสะโพกออกทางด้านนอก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อเสริมช่วยกล้ามเนื้อกางขาในช่วงการรับน้ำหนักร่างกายขณะยืนอยู่บนขาเดียวขณะที่ยกขาอีกข้าง
ระดับยางยืด:
เหนือเข่าเล็กน้อย หรือข้อเท้า
- ยืนตรง
เท้ากางเท่าระดับสะโพก มือท้าวเอว
- ค่อยๆย่อเข่าลง
จนปลายเข่าอยู่เท่ากับระดับปลายเท้า
แล้วจึงทิ้งก้นไปทางด้านหลังเหมือนจะนั่งเก้าอี้ ยืนลงน้ำหนักเท้าสองข้างเท่าๆกัน
- บิดเข่าขวาออกทางด้านข้างโดยที่ฝ่าเท้ายังติดอยู่ที่พื้นตลอดเวลา
- บิดเข่าซ้ายออกทางด้านข้างโดยที่ฝ่าเท้ายังติดอยู่ที่พื้นตลอดเวลา
- บิดเข่าทั้งสองข้างออกทางด้านข้างพร้อมกันโดยที่ฝ่าเท้ายังติดอยู่ที่พื้นตลอดเวลา
- ค่อยๆบิดขากลับมายืนสู่ท่าเริ่มต้น
สลับข้าง
ท่าที่ 7 ท่าย่อเข่าเดินด้านข้าง
ประโยชน์: บริหารกล้ามเนื้อบิดข้อสะโพกออกทางด้านนอก กล้ามเนื้อกางข้อสะโพก และกล้ามเนื้อหน้าขา ซึ่งเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อหลักที่ทำงานในช่วงการรับน้ำหนักร่างกายขณะยืนอยู่บนขาเดียวขณะที่ยกขาอีกข้าง
ระดับยางยืด:
เหนือเข่าเล็กน้อย หรือข้อเท้า
- ยืนตรง
เท้ากางเท่าระดับสะโพก มือกำหลวมๆยกระดับหัวไหล่
- ค่อยๆย่อเข่าลง
จนปลายเข่าอยู่เท่ากับระดับปลายเท้า
แล้วจึงทิ้งก้นไปทางด้านหลังเหมือนจะนั่งเก้าอี้ ยืนลงน้ำหนักเท้าสองข้างเท่าๆกัน
- ถ่ายน้ำหนักไปเหยียบที่ขาข้างซ้าย
โดยที่ตัวยังตรงอยู่ ไม่เอียงซ้ายหรือขวา
- ก้าวขาขวาออกไปทางด้านข้างโดยที่เข่ายังย่ออยู่
- ก้าวขาขวากลับมายืนสู่ท่าเริ่มต้น
สลับข้าง
ทางเลือก: สามารถก้าวขาเดินต่อไปทางด้านข้างอย่างต่อเนื่องได้ในระยะทางหนึ่ง หลังจากนั้นเดินกลับมาอีกข้างหนึ่งด้วยระยะทางเดียวกัน
ท่าที่ 8 ท่าย่อเข่าเดินด้านหน้า
ประโยชน์: บริหารกล้ามเนื้อบิดข้อสะโพกออกทางด้านนอก กล้ามเนื้อกางข้อสะโพก และกล้ามเนื้อหน้าขา ซึ่งเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อหลักที่ทำงานในช่วงการรับน้ำหนักร่างกายขณะยืนอยู่บนขาเดียวขณะที่ยกขาอีกข้าง
ประโยชน์: บริหารกล้ามเนื้อบิดข้อสะโพกออกทางด้านนอก กล้ามเนื้อกางข้อสะโพก และกล้ามเนื้อหน้าขา ซึ่งเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อหลักที่ทำงานในช่วงการรับน้ำหนักร่างกายขณะยืนอยู่บนขาเดียวขณะที่ยกขาอีกข้าง
ระดับยางยืด:
เหนือเข่าเล็กน้อย หรือข้อเท้า
- ยืนตรง
เท้ากางเท่าระดับสะโพก มือกำหลวมๆยกระดับหัวไหล่
- ค่อยๆย่อเข่าลง
จนปลายเข่าอยู่เท่ากับระดับปลายเท้า
แล้วจึงทิ้งก้นไปทางด้านหลังเหมือนจะนั่งเก้าอี้ ยืนลงน้ำหนักเท้าสองข้างเท่าๆกัน
- ถ่ายน้ำหนักไปเหยียบที่ขาข้างซ้าย
โดยที่ตัวยังตรงอยู่ ไม่เอียงซ้ายหรือขวา
- ก้าวขาขวาออกไปทางด้านด้านหน้าโดยที่เข่ายังย่ออยู่
- ก้าวขาขวากลับมายืนสู่ท่าเริ่มต้น
สลับข้าง
ทางเลือก:
สามารถก้าวขาเดินต่อไปทางด้านข้างอย่างต่อเนื่องได้ในระยะทางหนึ่ง
หลังจากนั้นเดินถอยหลังกลับมาด้วยระยะทางเดียวกัน
ท่าที่ 9 ท่าก้าวขาย่อเข่า
ประโยชน์:
บริหารกล้ามเนื้องอข้อสะโพก และกล้ามเนื้อหน้าขา
ซึ่งเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อหลักที่ใช้ก้าวขาไปด้านหน้าขณะวิ่ง
ระดับยางยืด:
เหนือเข่าเล็กน้อย
- ยืนตรง
เท้ากางเท่าระดับสะโพก มือท้าวเอว
- ก้าวขาซ้ายไปทางด้านหลังยาวๆ
- ย่อเข่าทั้งสองข้างลง
โดยให้เข่าขวาไม่เลยปลายเท้าขวา และเข่าซ้ายงอประมาณ 90
องศา ต้นขาตั้งฉากกับพื้น เข่าไม่แตะโดนพื้น
- ออกแรงเหยียดเข่าขวาขึ้นยืนให้ตรง
เหลือเข่าขวางอได้เล็กน้อย ในขณะที่ทรงตัวอยู่บนขาขวาและยกขาซ้ายลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย
- แตะขาซ้ายลงที่พื้น และย่อเข่าลง
ทำซ้ำหนึ่งข้าง เสร็จแล้วสลับข้าง
ท่าที่ 10 ท่าย่อกระโดดกางขา
ประโยชน์:
บริหารกล้ามเนื้อหน้าขา และกล้ามเนื้อกางขา
ซึ่งเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อหลักที่ใช้รับน้ำหนักตัวขณะวางขาลงบนพื้น
ระดับยางยืด:
เหนือเข่าเล็กน้อย หรือข้อเท้า
- ยืนตรง
เท้ากางเท่าระดับสะโพก ยกแขนไปด้านหน้าระดับหัวไหล่
- ค่อยๆย่อเข่าลง
จนปลายเข่าอยู่เท่ากับระดับปลายเท้า
แล้วจึงทิ้งก้นไปทางด้านหลังเหมือนจะนั่งเก้าอี้ ยืนลงน้ำหนักเท้าสองข้างเท่าๆกัน
- ออกแรงกระโดดขึ้น
พร้อมกับกางขา วางเท้าลงให้ห่างจากช่วงสะโพกเล็กน้อย
- ออกแรงกระโดดอีกครั้งหุบขาเข้า
กลับมายืนสู่ท่าเริ่มต้น เท้าห่างเท่าระดับสะโพก
- ทำซ้ำ
เป็นอย่างไรบ้างคะ ท่าออกกำลังในท่ายืนนี้ เรียกว่ายากกว่าท่าออกกำลังในท่าที่ต้องใช้เสื่อออกกำลังกาย เนื่องจากท่ายืนเป็นท่าที่ต้องใช้การทรงตัวที่ดีร่วมด้วย ยิ่งเป็นท่าที่ต้องใช้การกระโดดแล้วก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก ท่าที่เลือกมาให้ออกกำลังกาย เน้นท่าออกกำลังกล้ามเนื้อสะโพกและเข่าเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อหลักในการรับน้ำหนักร่างกาย และเป็นแรงส่งขณะวิ่ง หากเพื่อนๆจะล้ากล้ามเนื้อบริเวณสะโพกและเข่าหลังการออกกำลังกายก็ถือเป็นเรื่องปกติ
ขอให้เพื่อนๆได้รับประโยชน์จากยางยืดวงกลมกันมากๆนะคะ
Like this:
Like Loading...
Recent Comments