ภาวะปอดเย็นในนักวิ่ง

ในฤดูหนาว เพื่อนๆหลายคนอาจมีโอกาสได้ไปวิ่งในประเทศที่อากาศเย็นกัน หรือแม้แต่การไปวิ่งที่ภาคเหนือบ้านเราตอนหน้าหนาว และวิ่งตอนเช้าในเวลาที่อากาศยังเย็นอยู่ เย็นน้อยๆก็คงจะไม่เป็นไร แต่ถ้าเย็นจัดมากๆก็คงจะต้องมีการเตรียมตัวกันสักหน่อย และหลายคนคงกังวลใจว่าปอดของเราจะเย็นเกินไปจนแข็งตัว และมีอันตรายได้หรือเปล่า และอาการปวดแสบร้อนในปอดจากการวิ่งในอากาศที่เย็นจัดก็เป็นอาการที่รู้สึกได้จริง มันเกี่ยวข้องอะไรกับปอดหรือไม่ เป็นอันตรายอะไรกับปอดหรือไม่ เพื่อนๆไม่จำเป็นต้องห่วงปอดของเพื่อนๆเลย เนื่องจากมันเป็นอวัยวะสำคัญที่อยู่ในทรวงอก ร่างกายเรามีกระบวนการเพิ่มความชื้นและความอุ่นให้กับอากาศที่เราหายใจเข้าไป ดังนั้น อากาศจะอุ่นอย่างเพียงพอในเวลาที่มันเดินทางไปถึงปอดของเพื่อนๆแล้ว เรามารู้จักกับปอดกันสักนิดหนึ่ง

ปอดเป็นอวัยวะที่มหัศจรรย์ มันจะค่อยๆปรับอากาศที่เราหายใจเข้าไปให้มีความชื้นถึง 100% และอุ่นเท่ากับอุณหภูมิแกนกลางร่างกายโดยไม่มีการทำลายเนื้อเยื่อแต่อย่างใด เพื่อนๆลองคิดถึงภาพปอดว่าเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งใหญ่แยกออกไปสองข้าง และก็แตกแยกออกเป็นกิ่งเล็กกิ่งน้อย เล็กลงๆเรื่อยๆจนไปถึงปลายสุดที่กลายเป็นใบไม้ แล้วเราเอาภาพต้นไม้นี่กลับหัว ย่อขนาดลงและใส่เข้าไปในทรวงอกเราดู แล้วเพื่อนๆก็จะได้เห็นว่าจริงๆแล้วลำต้นใหญ่ของต้นไม้คือหลอดลม และใบไม้ก็คือถุงลมนั่นเอง

อากาศเย็นๆที่เพื่อนๆรู้สึกตอนที่หายใจเข้าไปนั้น จะมีการทำให้อากาศอุ่นขึ้นและชื้นขึ้นดังที่ได้กล่าวมาแล้ว โดยเริ่มต้นที่จมูกและปาก และเมื่อไปจนสุดทางก่อนจะลงลึกไปถึงแขนงต้นไม้ หรือบริเวณขั้วปอด อากาศก็จะอุ่นขึ้นและชื้นขึ้นจนถึง 100% และเมื่ออากาศเคลื่อนลงไปถึงถุงลมซึ่งหุ้มโดยเส้นเลือดฝอย ก็จะเกิดการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนที่หายใจเข้าไป และนำเอาคาร์บอนไดออกไซด์จากร่างกายออกมา ในขณะที่อากาศที่เราหายใจเข้าไปทำให้เนื้อเยื่อบริเวณปอดเย็น แต่อากาศที่หายใจออกมาจะมีความร้อนออกมาด้วย ช่วยให้เนื้อเยื่อบริเวณปอดอุ่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

อากาศเย็นนั้นแห้งมากๆ อาการปวดแสบในทรวงอกในวันที่อากาศเย็นอาจเกิดจากการแลกเปลี่ยนความร้อนและน้ำที่จะเกิดขึ้นในช่วงแรกของการหายใจเอาอากาศเย็นและแห้งเข้าไปรวมกัน สำหรับคนส่วนใหญ่ ความรู้สึกนี้จะหายไปใน 2-3 ลมหายใจแรก แล้วอาการปวดแสบไหม้ที่เพื่อนๆรู้สึกนานกว่านั้นมาจากอะไร นั่นคือภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดการระคายเคืองต่อเซลล์ที่อยู่ภายในท่อลม เมื่ออยู่ในที่ที่มีอากาศเย็น ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศมีแนวโน้มว่าจะลดลงมาก (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับช่วงที่อากาศร้อนในหน้าร้อน) อย่าลืมว่า อากาศต้องชื้นขึ้นถึง 100% ก่อนที่มันจะไปถึงปอด

แล้วน้ำที่จะมาช่วยเพิ่มความชื้นจำนวนมากนั้น มาจากไหน คำตอบคือเซลล์ที่วางตัวอยู่ภายในหลอดลมจะเป็นตัวเติมน้ำเพื่อเพิ่มความชื้นให้กับอากาศที่กำลังเดินทางไปที่ปอด อย่างไรก็ตาม เมื่อเพื่อนๆวิ่งอยู่ข้างนอกในอากาศที่เย็นและแห้งจัด แถมเพื่อนๆยังหายใจเร็วขึ้นและแรงขึ้นอีก จึงทำให้เซลล์เหล่านี้เติมน้ำให้ได้ไม่เพียงพอและทันเหตุการณ์ จึงทำให้เซลล์เหล่านี้ขาดน้ำอย่างรุนแรง และเมื่ออาการขาดน้ำเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจะเกิดการระคายเคืองต่อเซลล์จนทำให้เกิดอาการ “แสบไหม้” ในบริเวณคอ และปอด อาการนี้สามารถพบได้บ่อยในนักวิ่งที่ยังใหม่ต่อการออกกำลังในที่อากาศเย็น ยังไม่เป็นที่รายงานแน่ชัดว่าอาการนี้สามารถทำลายปอดที่สุขภาพดีได้หรือไม่ แต่อาจกระตุ้นอาการหลอดลมหดตัวในคนที่เป็นโรคหอบหืดอยู่แล้วได้ หลอดลมที่แคบลง ยังอาจทำให้เพื่อนๆหายใจลำบากขึ้นได้ แม้จะไม่ได้เป็นโรคหอบหืดก็ตาม หลายๆคนมักจะกังวลว่าเนื้อเยื่อปอดจะแข็งตัวในอากาศเย็น แต่จำนวนเส้นเลือดฝอยที่ไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อปอดจำนวนมหาศาลนั้นดูเหมือนจะเป็นตัวป้องกันไม่ให้เกิดภาวะปอดแข็งตัวได้จริง

อย่างดีที่สุดที่เราจะสามารถบอกได้ก็คือ ปอดจะสามารถทนอุณหภูมิที่หนาวเย็นจัดได้โดยไม่ถูกทำลาย คนที่เติบโตขึ้นในทางเหนือของรัฐมินเนโซตา และพบกับอุณหภูมิติดลบ 40 องศาเซลเซียสนั้นถือว่าปกติ และนั่นก็ไม่สามารถหยุดนักวิ่งไม่ให้ออกไปวิ่งข้างนอกบ้านได้ ยังคงมีนักวิ่งจำนวนมากในรัฐมินเนโซตา และรัฐทางเหนือที่ต่ำลงมา ยังไม่นับรวมนักสกี และสเก็ตน้ำแข็งจากแถบสแกนดิเนเวีย ที่ออกไปออกกำลังกายกลางแจ้งตลอดทั้งปี ดูเหมือนว่าธรรมชาติร่างกายของเราได้พัฒนามาให้มีระบบที่อึดและทนต่ออากาศเย็นได้ดีซะด้วย ดังนั้นไม่ว่าอุณหภูมิและความชื้นภายนอกจะเป็นอย่างไร ไม่มีวันที่อากาศเย็นจะเข้าไปถึงปอดของเพื่อนๆได้ เพื่อนๆสบายใจได้

แล้วเราจะมีวิธีการป้องกันหรือช่วยเหลือปอดของเราจากอากาศเย็นได้อย่างไร อันดับแรกและสำคัญที่สุดคือ เพื่อนๆจะต้องดื่มน้ำให้เพียงพอในช่วงฤดูนี้ หลายๆคนคงคิดว่าอากาศข้างนอกมันก็เย็นมากแล้ว และเราก็ไม่ได้เหงื่อออกมากสักเท่าไรเมื่อออกไปวิ่งในช่วงเวลานี้ แล้วทำไมฉันถึงจะต้องดื่มน้ำเยอะๆในช่วงฤดูนี้ด้วย คำตอบก็คือ เพื่อนๆเหงื่อออกมากกว่าที่เพื่อนๆคิด ที่เราไม่รู้สึกก็เพราะว่า พอเหงื่อที่ชื้นออกมาเจออากาศที่แห้ง มันจึงระเหยได้เร็วจนเราไม่ทันรู้สึกเปียกหรือชื้นแต่อย่างใด ทำให้เราคิดว่าเหงื่อเราไม่ออกนั่นเอง ดังนั้นการวิ่งในที่อากาศเย็นจึงควรดื่มน้ำเช่นเดียวกับที่วิ่งในอากาศร้อน หากดื่มน้ำอย่างเพียงพอก็จะช่วยให้ลดโอกาสเกิดอาการแสบร้อนได้

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยได้คือ การฝึกให้หายใจได้ลึกขึ้น และลดอาการหอบให้น้อยลง โดยการไม่วิ่งหนักจนเกินไป การหายใจสั้นและตื้น จะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองต่อหลอดลมได้เร็วขึ้น การฝึกหายใจทางจมูกให้มากที่สุด หรือมากกว่าหายใจทางปาก จะสามารถลดปริมาณอากาศเย็นและแห้งที่เข้าสู่ร่างกายได้ การวิ่งในที่อากาศเย็นนั้น โดยหลักการแล้วน่าจะทำให้เวลาการวิ่งของเพื่อนๆดีขึ้นได้ใช่ไหมคะ แต่จริงๆแล้ว เพื่อนๆสามารถช่วยให้ปอดค่อยๆปรับตัวกับอากาศเย็นได้ด้วยการเริ่มวิ่งอย่างช้าๆและสบายๆ วิ่งระยะทางน้อยๆบนพื้นผิวที่เรียบและวิ่งช้าๆ เพื่อป้องกันอาการหอบ ให้มีสมาธิกับลมหายใจ หายใจอย่างสม่ำเสมอและคงที่ ไม่พยายามสูดลมเข้าหรือพ่นลมออกแรงๆ ซึ่งอาจทำให้ระคายเคืองได้ง่าย จงมีความยืดหยุ่นกับโปรแกรมซ้อมของตนเอง พยายามวิ่งในช่วงเวลาที่อุ่นที่สุดของวัน ซึ่งมักจะเป็นระหว่างวันในเวลาที่พระอาทิตย์ยังอยู่กลางท้องฟ้า

ถ้าอากาศเย็นยังคงทำให้เพื่อนๆมีอาการปวดแสบในอก หรือไอมากขณะวิ่งจริงๆแล้ว ลองใช้อุปกรณ์ช่วย การใช้ผ้าห่อคอที่คลุมมาถึงปากที่ทำจากขนสัตว์เพื่อให้อุ่นนั้น สามารถช่วยให้อากาศที่หายใจเข้าไปอุ่นและชื้นขึ้นก่อนจะถึงปอด ช่วยเก็บความอุ่นและชื้นที่เพื่อนๆหายใจออกเอาไว้นำมาเสริมให้กับลมหายใจเข้าครั้งต่อไปให้อุ่นและชื้นมากขึ้น ง่ายต่อการทำงานของปอด รวมไปถึงช่วยป้องกันน้ำแข็งกัดผิวหน้าได้ด้วย ผ้าคลุมนั้นมีหลายแบบ หลายสไตล์ หลายชนิดให้เลือกใช้ตามความชอบ

ข้อดีของผ้าคลุมแบบนี้คือ สามารถดึงขึ้นปิดปากได้เมื่อหนาวเย็น และดึงลงมาไว้ที่คอได้เมื่ออุ่นมากขึ้นแล้ว หากอุ่นมาก สามารถถอดพับเก็บใส่กระเป๋าได้ หรือเอามาพันข้อมือได้ ซึ่งต่างจากผ้าพันคอซึ่งมีขนาดใหญ่ พกพายาก แถมผ้าพันคอยังต้องระวังปลายผ้าที่จะห้อยร่องแร่งสู้ลมจนกลายเป็นแรงเสียดทานการวิ่งไป นอกจากนี้ การใช้ผ้าคลุมหัวที่เหลือแต่ใบหน้า คลุมทั้งหู หัว จมูก และปาก อาจจะดูน่าอึดอัด แต่เพื่อนๆจะอุ่นและสบายในวันที่อุณหภูมิลดต่ำลงมากๆ แถมยังเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ว่าเพื่อนๆจะหายใจทางจมูกหรือปาก ถึงแม้ว่าเพื่อนๆจะค้นพบว่าการหายใจทางจมูกจะช่วยลดอาการปวดแสบได้ ลองพกไปด้วยก็ได้ในกรณีที่เพื่อนๆมีอาการที่จมูกแล้ว

สำหรับเพื่อนๆที่เป็นโรคหอบหืดหากทำตามวิธีดังที่บอกมาแล้วไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ การทานยาสามารถช่วยให้เพื่อนๆรู้สึกสบายขึ้นได้ หรือหากไม่อยากทานยา ก็สามารถวิ่งออกกำลังในยิมได้ และวิ่งข้างนอกต่อเมื่ออากาศหนาวพอทนได้ แต่เพื่อนๆต้องรู้กำแพงความสามารถของปอดของเพื่อนๆเอง และควรจะวิ่งลู่วิ่งในยิมในวันที่อากาศหนาวจัดมากๆแทนจะดีกว่า

ดังนั้น ไม่ต้องกังวลกับอากาศที่เย็นและแห้งจนเกินไป เพื่อนๆสามารถออกไปวิ่งได้ แค่เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศซึ่งเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด อย่างเช่นเสื้อวิ่งแขนยาว แจ็คเก็ตกันหนาวและกันลม กางเกงผ้าฟลีช หมวก หน้ากาก ผ้าป้องกันคอ ถุงมือ เป็นต้น แล้วความรู้สึกปวดแสบร้อนก็จะผ่านไป

ขอให้เพื่อนนักวิ่งมีปอดที่อบอุ่นพอในวันอากาศหนาวเย็นจัดๆกันนะคะ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: