Category: อาหารการกินของนักวิ่ง

ทานให้เหมือนคุณยายชาวกรีก วิ่งให้เหมือนแชมป์

พื้นฐานของการทานอาหารสูตรเมดิเตอร์เรเนียนออกจะเป็นเรื่องง่าย ให้เพื่อนๆทำตามแนวทางนี้ ซึ่งถูกแนะนำโดยเมโยคลินิก ร่างกายนักวิ่งของเพื่อนๆจะขอบคุณเพื่อนๆเอง สร้าง สร้าง สร้าง: ควรทานผักและผลไม้ทุกมื้ออาหาร และควรเป็นผักและผลไม้สดจะดีที่สุด จะทานแทนขนมว่างไปเลยก็ได้ เปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นธัญพืช: ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง ซีเรียล พาสต้า และข้าว อย่าเมินอาหารจำพวกถั่ว: ฝึกทานถั่วชนิดต่างๆ ถึงแม้ว่าจะให้พลังงานสูง แต่พวกมันเต็มไปด้วยไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ บอกเลิกเนยไปเลย: เปลี่ยนมาบอกรักน้ำมันมะกอกแทน ยิ่งเพื่อนๆทานน้ำมันมะกอกมากเท่าไร เพื่อนๆจะยิ่งรักรสชาติธรรมชาติของมัน และสามารถใช้มันได้อย่างหลากหลายด้วย ลองเล่นกับสมุนไพรและเครื่องเทศ: นอกจากพวกมันจะช่วยเพิ่มรสชาติอาหารแล้ว ยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยประการทั้งปวง ทานปลาอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์: การทานปลาสดหรือที่แพคมากับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาเทราต์ ปลาแมคเคอเรล ปลาเฮริง ต่างล้วนแต่เป็นปลาที่ดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น มองข้ามเนื้อแดง: เพื่อนๆไม่ต้องถึงขั้นยอมแพ้ แต่แค่จำกัดปริมาณให้เหลือสัก 2 มื้อต่อเดือน เมื่อเพื่อนๆจำเป็นต้องทาน ให้เลือกเนื้อที่มีไขมันแทรกอยู่น้อยที่สุด… Continue Reading “ทานให้เหมือนคุณยายชาวกรีก วิ่งให้เหมือนแชมป์”

ตัวอย่างอาหารว่างมีประโยชน์ 8 ชนิด ทานแล้วไม่รู้สึกผิดสักกะนิด

อาหารบางอย่างสามารถฆ่าคนทานได้เร็วกว่าอาหารว่าง เพราะพวกมันมีแรงดึงดูดและล่อลวงเก่ง และกำความลับบางอย่างในร่างกายเราเพื่อเอาชนะ แต่ก็ยังมีวิธีที่จะต่อสู้กับสงครามนี้ นั่นคือ เพื่อนๆจะต้องถือผักและผลไม้เอาไว้แน่นๆในมือเป็นอาวุธต่อสู้การโจมตี และเป็นความจริงที่ ขึ้นฉ่ายฝรั่งอาจจะเอาชนะมันฝรั่งทอดไม่ได้ ดังนั้นเราจึงขอนำเสนอรายการของว่างที่สามารถนำมาสลับทานได้ เหมือนเป็นจานตัวแทนในวันที่เพื่อนๆไม่สามารถทานแครอทดิบๆลงไปได้ ขนมข้าวอบกรอบแทนโดริโทส: แม้ขนมข้าวอบกรอบจะไม่ได้คุณค่าทางสารอาหารสมบูรณ์แบบ แต่ส่วนประกอบหลักก็ยังทำมาจากธัญพืชข้าวสีน้ำตาล ซึ่งถือว่ายังเป็นตัวเลือกที่มีรสชาติดี แท่งซีเรียลแทนเค้ก: แท่งซีเรียลโดยส่วนใหญ่จะมีคาราเมลและเนยถั่ว และผงช็อคโกแลต อาจจะดูห่างไกลกับคำว่า “อาหารสุขภาพ” แต่ก็ยังมีสารอาหารที่มีคุณค่ามากกว่าขนมเค้กที่มีแต่น้ำตาลในท้องตลาด และสามารถเติมเต็มอาการขาดความหวานของช่องปากได้เช่นกัน คุกกี้ดีแทนคุกกี้เลว: ถ้าเพื่อนๆจะต้องมีคุกกี้ติดบ้าน นั่นก็พอจะเข้าใจได้ แต่อย่าให้มากถึงขนาดโอริโอเลย ให้เพื่อนๆมองหาคุกกี้ที่มีส่วนผสมของอาหารสุขภาพบ้าง เช่น ผลไม้ ธัญพืช และผงดาร์กช็อคโกแลต อย่างเช่น คุกกี้ข้าวโอ๊ตที่มีเชอร์รีแห้งและผงดาร์กช็อคโกเลตเป็นส่วนผสม ซึ่งสามารถไปด้วยกันได้ระหว่างความอยากทานคุกกี้และสุขภาพที่แข็งแรงของร่างกาย แผ่นตอติลาอบแทนทอด: การทำแผ่นตอติลาอบง่ายมาก ตัดแผ่นแป้งตอติลารสข้าวโพดออกเป็นรูปสามเหลี่ยมแล้วนำไปอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮด์เป็นเวลา 10 นาที ค่อยดูว่ามันจะไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มเกินไปและยังคงนุ่มอยู่ แม้จะไม่เค็ม และมันเท่าที่ทำจากภัตตาคารอาหารเม็กซิกัน แต่ถ้าเติมซัลซา… Continue Reading “ตัวอย่างอาหารว่างมีประโยชน์ 8 ชนิด ทานแล้วไม่รู้สึกผิดสักกะนิด”

15 แหล่งอาหารที่เต็มไปด้วยธาตุเหล็ก

ในอาหารมีธาตุเหล็กอยู่ 2 ชนิด เหล็กในรูปฮีม (Heme iron) และเหล็กในรูปอื่นๆ (Non-heme iron) เหล็กในรูปฮีมได้มาจากฮีโมโกลบิน และพบได้ในอาหารที่ทำมาจากสัตว์ โดยเฉพาะ เนื้อสัตว์ และหอย เหล็กในรูปอื่นๆพบได้ในอาหารที่ทำมาจากพืช ซึ่งดูดซึมเข้าร่างกายได้ยากกว่าเหล็กในรูปฮีม เหล็กในรูปฮีมสามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้มากกว่าเหล็กในรูปอื่นๆ 2 – 3 เท่า ปริมาณธาตุเหล็กที่ควรได้รับต่อวันในผู้ชายอายุมากกว่า 18 ปีคือ 18 มิลลิกรัมต่อวัน และผู้หญิงอายุ 19 – 50 ปีควรได้รับธาตุเหล็ก 18 มิลลิกรัมต่อวัน และผู้หญิงอายุมากกว่า 51 ปีขึ้นไป ควรได้รับธาตุเหล็ก 8 มิลลิกรัมต่อวัน อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กทั้งสองชนิด คือ หอยกระป๋องแห้ง 3 ออนซ์… Continue Reading “15 แหล่งอาหารที่เต็มไปด้วยธาตุเหล็ก”

อาหารเสริมที่มีประโยชน์สำหรับนักวิ่ง

หากการเพิ่มสารอาหารที่มีประโยชน์เป็นเป้าหมายหลักของเพื่อนๆแล้ว ยังมีทางเลือกอีกนิดหน่อยที่จะได้ผลโดยไม่ต้องพึ่งยาเม็ด ผงผสมน้ำ หรืออาหารเหลวอื่นๆ ลองพิจารณาอาหารต่อไปนี้ดูนะคะ มะเดื่อฝรั่ง: หากกล้วยและแอปเปิลเป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันอาหารคุณภาพที่มีชื่อเสียง มะเดื่อฝรั่งคือเด็กสาวข้างบ้านที่กำลังจะขึ้นไปประกวดการแข่งขันเต้นรำนั่นเอง ยิ่งถ้าอยู่ในรูปของมะเดื่อฝรั่งแห้งแล้ว ยิ่งมีประโยชน์ชัดเจนมาก มะเดื่อฝรั่งมีปริมาณของเส้นใยอาหารจำนวนมาก มีแคลเซียมมากกว่าผลไม้อื่นๆพันเท่า (หากเทียบน้ำหนักเท่ากัน) มีโพแทสเซียมมากกว่ากล้วย 80% มีธาตุเหล็กมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นโดยส่วนใหญ่ และยังมีแมกนีเซียมสูงด้วย ปริมาณแคลอรีต่อมะเดื่อฝรั่ง 1 ผล คือ 30 แคลอรี นิวทริชั่นแนล ยีส: พออ่านหัวข้อแล้ว เพื่อนๆอาจจะคิดว่า นี่มันก็คืออาหารที่เรากำลังพยายามหลีกเลี่ยงอยู่ไม่ใช่หรือ แต่นิวทริชั่นแนล ยีสที่โตมาบนกากน้ำตาลโมลาส แล้วจึงไปดึงน้ำออกให้เป็นรูปแบบผง จนทำให้เป็นอาหารที่ช่วยชีวิตชาวมังสวิรัติวีแกน ด้วยรสชาติที่คล้ายถั่วและชีส เติมผงชูรสอุมามินิดหน่อย จึงสามารถนำมาทานแทนพาเมซานชีสได้ ชาววีแกนรักโปรตีนคุณภาพสูงและวิตามินบีคอมเพล็กซ์ในนิวทริชั่นแนล ยีสต์มาก เพราะมักจะไม่ขาดวิตามินบี 12 อีกเลย และที่มากไปกว่านั้นคือ มันมีรสชาติอร่อย ลองทานพร้อมกับข้าวโพดคั่ว พิซซา… Continue Reading “อาหารเสริมที่มีประโยชน์สำหรับนักวิ่ง”

คีนัว เมล็ดพันธุ์ยอดนิยม

คีนัวเป็นอาหารที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในครัวไม่นานมานี้ แต่เมล็ดพันธุ์ขนาดเล็กนี้ได้เจริญเติบโตอย่างดีในเทือกเขาแอนดีส และเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ดีมาเป็นเวลาพันปีแล้ว นอกจากจะคล้ายธัญพืชแล้ว คีนัวยังเป็นสายพันธุ์คีโนพอด (Chenopod) ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับบีท (Beet) และผักชาร์ด (Chard) ด้วยเหตุผลนี้ เมล็ดคีนัวจึงเป็นดาวเด่นของโภชนาการ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? อาจเป็นเพราะว่ามันอร่อยดี ใช้เตรียมอาหารได้ง่าย และยังประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นทุกชนิด ซึ่งเป็นอะไรที่ธัญพืชและพืชชนิดอื่นจะมีได้ นักวิ่งควรให้ความสนใจกับเมล็ดพืชชนิดนี้ นอกจากนี้มันยังมีไลซีนปริมาณมาก ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สำคัญต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ การเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ และประกอบด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นธาตุที่สัมพันธ์กับการพัฒนาความแข็งแรง และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ด้วย ขอให้เพื่อนนักวิ่งลองทานคีนัวและถูกใจมันกันนะคะ

อาหารเสริม จำเป็นต้องเสริม สำหรับนักวิ่งหรือไม่

เป็นเวลากว่าพันปีมาแล้ว โรคเลือดออกตามไรฟันเนื่องจากขาดวิตามินซีเป็นหายนะใหญ่ของลูกเรือ นักสำรวจ และผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทรมานจากความอดอยาก และพื้นที่สงคราม  หนึ่งในโรคที่เก่าแก่ที่สุดที่มวลมนุษยชาติรู้จักมีอาการสูญเสียฟัน เลือดออกที่ตา เป็นไข้ ชัก ปวดกระดูก อ่อนเพลีย และสุดท้ายคือเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้เกิดเป็นการสูญเสียปริมาณลูกเรือถึงหนึ่งล้านชีวิตในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 และยังเกิดการสูญเสียผู้ชายอีก 10,000 ชีวิตจากเหตุการณ์การตื่นทองที่แคลิฟอร์เนียเมื่อช่วงปี 1848 และในตอนนั้นโรคเลือดออกตามไรฟันเป็นโรคธรรมดาสามัญที่ยังไม่สามารถรักษาได้ แม้ในตอนนั้นเป็นเพียงโรคที่เกิดจากการขาดสารอาหารซึ่งก็คือวิตามินซี ทั้งที่จริงแล้ว เพียงแค่ทานส้มวันละผลก็สามารถหายจากโรคได้ ทุกวันนี้ พวกเราถูกโถมทับด้วยงานวิจัยจำนวนมหาศาลที่ระบุรายละเอียดของแร่ธาตุและวิตามินทุกตัวที่มีผลต่อมนุษย์ และในเวลาเดียวกัน พวกเราก็จมอยู่กับการตลาดและคำโฆษณาที่บีบบังคับให้ยอมควักเงินซื้อแร่ธาตุและวิตามินต่างๆมากมาย มีอาหารเสริมมหัศจรรย์สำหรับแก้ไขได้ทุกโรคเพียงทานแค่เม็ดเดียวเกิดขึ้นอีกมากมาย ตั้งแต่รักษาโรคข้อต่อเสื่อมไปจนถึงมะเร็ง รวมไปถึงการต่อสู้กับความแก่ด้วย และก็ยากมากที่จะต่อต้านกระแสนี้ ใครล่ะจะไม่ฝันถึงการทานอาหารที่จะได้รับสารอาหารทุกอย่างครบถ้วนตามที่ร่างกายเราต้องการด้วยการทานอาหารเสริมเพียงเม็ดเดียว โชคร้ายหน่อยที่ตอนนี้ไม่ใช่ปี 2062 และการตามล่าหาสารอาหารที่ไม่ผ่านการสังเคราะห์ตามชั้นวางสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตทุกวันนี้ดูเหมือนกับการตามล่าหาขุมทรัพย์ซะมากกว่า แต่ไม่ต้องตื่นตกใจไป บทความนี้จะเป็นแผนที่นำทางให้กับเพื่อนๆเอง อาหารเสริม ในฐานะที่เราเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ถือว่าพวกเราทำได้ดีมากในช่วง 2 – 3… Continue Reading “อาหารเสริม จำเป็นต้องเสริม สำหรับนักวิ่งหรือไม่”

การสร้างร่างกายนักวิ่งจากไขมัน

เพื่อนๆเคยนอนฝันถึงการได้ทานกล้วยทอดโดยไม่จำกัดจำนวนชิ้นหรือไม่? หรือว่าจะทานมิลค์เชคเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยแทนน้ำเปล่าดี?เคยจินตนาการถึงโลกที่ไม่ถูกจำกัดด้วยขนาดเอวกางเกงยีนส์ไหม?ถ้าเพื่อนๆตอบว่า “ใช่” แล้วล่ะก็ ขอแสดงความยินดีด้วยเพื่อนๆเป็นคนชอบทานอาหารที่ประกอบด้วยไขมันเป็นหลักและนั่นก็ทำให้เพื่อนๆเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ความชื่นชอบไขมันของมนุษย์ได้มาจากวิวัฒนาการทางสายพันธุกรรมที่ช่วยให้บรรพบุรุษของเรามุ่งหน้ามาหาอาหารที่มีความเข้มข้นของพลังงานสูงซึ่งจะทำให้มนุษย์สามารถอยู่รอดได้ในโลกใบนี้ อย่างไรก็ตาม โลกในยุคปัจจุบันที่พบไขมันแพครวมอยู่กับขนมขบเคี้ยวในมินิมาร์ททั่วไป จึงมีความสำคัญที่จะควบคุมวิวัฒนาการที่มีต่อไขมันนี้อย่างระมัดระวัง ด้วยการพิจารณาว่าจะผสมไขมันเข้าไปในอาหารที่ทานอยู่ประจำวันได้มากเท่าไรกันแน่ ไขมันคืออะไร? ในเรื่องของโภชนาการ ไขมันเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานชนิดที่ 3 ที่เราจะพูดถึงกันต่อจากคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน ไขมันหลักตัวแรกคือไตรกลีเซอไรด์ และไขมันตัวอื่นที่มีประมาณน้อย ไขมันประกอบด้วยส่วนประกอบที่ไม่สามารถละลายน้ำได้ ไขมันใช้เวลาในประวัติศาสตร์มนุษยชาติมากว่าเป็นศัตรูอันดับหนึ่งต่อร่างกาย แต่นั่นก็ดูจะไม่ยุติธรรมกับไขมันสักเท่าไร นอกจากไขมันจะให้พลังงานแล้ว ไขมันยังมีความสำคัญในการช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเหมาะสม ไขมันเป็นแหล่งให้พลังงานที่เข้มข้นที่สุดเมื่อเทียบกับสารอาหารอื่น มันให้พลังงานถึง 9 แคลอรีต่อกรัม เมื่อเทียบกับโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ที่ให้พลังงานเพียง 4 แคลอรีต่อกรัม ไขมันยังช่วยทำให้อาหารมีรสชาติดีด้วย ดีมากจริงๆ และนั่นเป็นเพราะพวกเราเหล่ามนุษย์ถูกตั้งสายมาให้ชอบไขมันอย่างยิ่ง รสชาติที่เราได้รับจากไขมันมาจากผลของแรงผลักดันทางด้านวิวัฒนาการ เพื่อให้เพื่อนๆเลือกอาหารที่มีความเข้มข้นของพลังงานสูงเพื่อให้ร่างกายอยู่รอดได้ ในความเป็นจริงแล้ว อาหารที่มีส่วนผสมของไขมันสูงเป็นที่ชื่นชอบมากกว่าผลไม้และผักที่ให้พลังงานต่ำ แอนดรูว์ ดิวนาวสกี (Andrew Dewnowski) แลอีวา อัลไมรอน รอยจ์… Continue Reading “การสร้างร่างกายนักวิ่งจากไขมัน”

วิตามินดีๆสำหรับนักวิ่ง

วิตามินคือสารประกอบอินทรีย์ที่จำเป็นที่ทำหน้าที่เป็นตัวปรับการทำงานของกระบวนการเผาผลาญโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน และมีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโต การคงสภาพของเนื้อเยื่อต่างๆ และ ช่วยป้องกันโรคต่างๆ เพื่อนๆสามารถพบวิตามินได้จากทั้งพืชและสัตว์ พวกเราใช้วิตามินในกระบวนการสร้างพลังงาน แต่ไม่ใช่แหล่งของพลังงาน เราสามารถแบ่งวิตามินออกเป็น 2 ประเภทคือ วิตามินที่ละลายในไขมัน คือ วิตามิน เอ ดี อี และเค จะสามารถดูดซึมไปพร้อมกับอาหารจำพวกไขมันที่เพื่อนๆทานเข้าไป และเก็บไว้ในร่างกายด้วยปริมาณปานกลาง วิตามินกลุ่มนี้มีความสำคัญต่อการรักษาสภาพการเผาผลาญพลังงานปกติของกร่างกาย และช่วยให้การทำงานของเซลล์ในแง่ชีวเคมีเป็นไปอย่างราบรื่นด้วย วิตามินที่ละลายในน้ำ มี 9 ชนิด คือ วิตามิน ซี และกลุ่มวิตามินบี ต้องละลายกับน้ำก่อนที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ และต้องก่อนที่จะถูกส่งออกไปพร้อมกับปัสสาวะด้วย ประโยชน์จากวิตามินสำหรับนักวิ่ง วิตามินบี 6 วิตามินบี 6มีบทบาทสำคัญในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ปรับสมดุลการทำงานของระบบประสาทให้ปกติและช่วยในการเผาผลาญโปรตีน ซึ่งประโยชน์อย่างหลังสุดนี้ทำให้วิตามินบี 6มีความสำคัญต่อการสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ มีการกล่าวว่าวิตามินบี 6ช่วยลดอาการปวดข้อต่อและลดอาการกล้ามเนื้อล้าหลังการออกกำลังกายอย่างหนักได้และจากการศึกษาในปี… Continue Reading “วิตามินดีๆสำหรับนักวิ่ง”

แร่ธาตุเหมาะๆสำหรับนักวิ่ง

กินแร่อะไร เพิ่มแรง ปรับร่างให้สมดุลสำหรับนักวิ่ง มาดูกัน

ไขมันโปรด 5 อันดับสำหรับนักวิ่ง

เพื่อให้การกระจายปริมาณการบริโภคไขมันในหนึ่งวันเป็นไปอย่างเหมาะสมที่สุดเพื่อนๆควรจะต้องมีคอเลสเตอรอลสุขภาพดีอย่าง LDL อยู่ในมื้ออาหารด้วยซึ่งก็คือ อะโวคาโด (Avocado): ปริมาณ 30 กรัมที่มากับอะโวคาโดเป็นไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว หมายความว่าอะโวคาโดเป็นไขมันดีมาก และมันก็อร่อยซะด้วย ไข่:เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมามากเมื่อไข่ถูกระบุว่าเป็นระเบิดคอเลสเตอรอลแต่ในปัจจุบัน ไข่เป็นแหล่งอาหารที่ดีต่อการพัฒนาสุขภาพหัวใจแนวคิดที่ผ่านมาบอกว่าไขมันอิ่มตัวสามารถเพิ่มระดับไขมันเลว LDL ได้ และในไข่มีไขมันอิ่มตัวเพียง 1.5 กรัมเท่านั้นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพอย่างน่ามหัศจรรย์ก็คือไข่นี่เอง เพราะไข่มีโคลีน (Choline)ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยปรับการทำงานของสมอง ระบบประสาทและระบบหัวใจและหลอดเลือด น้ำมันโอลีฟ:เพื่อนๆเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนที่อาศัยอยู่ในประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่ร่ำรวยด้วยน้ำมันโอลีฟถึงมีอายุยืนยาวนัก?การศึกษามากมายที่สรุปมาให้เรารับรู้นั่นคือน้ำมันโอลีฟสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจภาวะความดันโลหิตสูง และมะเร็งบางชนิดได้ เพื่อนๆควรผสมน้ำมันโอลีฟเข้าไปในมื้ออาหารประจำวันและขอให้มีอายุยืนยาว ถั่ว:เพราะว่าถั่วประกอบด้วยไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งก็คือ กรดไขมันโอเมกา 3 ซึ่งทำให้คนที่ทานถั่วเป็นประจำมีรูปร่างผอมไม่ค่อยมีความเสี่ยงจะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และมีความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจลดลงเพื่อนๆคงบ้าแน่ๆถ้าไม่ยอมทานถั่วค่ะ ปลาที่มีกรดไขมันจำเป็นสูง: ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาดีนปลาแม็กเคอเร็ล ปลาเทราท์ คือแหล่งของกรดไขมันโอเมกา 3เต็มรูปแบบ สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (American HeartAssociation) ได้แนะนำไว้ว่าควรการทานปลาชนิดที่กล่าวมาอย่างน้อย 2มื้อต่อสัปดาห์ ขอให้เพื่อนๆมีความสุขกับการทานไขมันดีกันมากๆนะคะ

แผนการทานอาหารและน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับนักวิ่งที่ต้องการลดความอ้วน

วิ่งอย่างเดียวไม่ผอมนะ ต้องคุมอาหารด้วย มีวิธีการอะไรบ้าง เชิญอ่านเลยค่า

ผงโปรตีน มหัศจรรย์แห่งการเขย่า หรือแค่การตลาดกันแน่

เครื่องดื่มโปรตีนเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมสารอาหารทางการกีฬาซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 3 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์ต่อปีในอเมริกาเพียงประเทศเดียว และมันยังเป็นอาหารเสริมที่นิยมมากที่สุดในกลุ่มนักกีฬาวัยรุ่นด้วย แต่มันมีประโยชน์จริงหรือ? อาจเพราะผงโปรตีนทานได้สะดวก และสูตรสำเร็จคือภาพที่หน้ากล่องผลิตภัณฑ์มักทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะได้กล้ามเนื้อท้องแบบเป็นลอนๆได้อย่างแน่นอน แต่ยังมีข้อโต้แย้งจากงานวิจัยที่มีมากขึ้นเรื่อยๆต่อต้านกับเครื่องจักรทางการตลาดในอุตสาหกรรมนี้ กลไกการตลาดอยากจะให้เพื่อนๆเชื่อว่า การขาดโปรตีนจะทำให้เพื่อนๆมีความแตกต่างระหว่างเพื่อนๆกับนักกีฬาโอลิมปิกทั้งชายและหญิง (แต่บางทีอุตสาหกรรมนี้มีจุดอ่อน จากการที่มีรายงานจาก International Olympic Committee ที่พบว่า อาหารเสริมเกือบ 20% ที่ขายในอเมริกาและอังกฤษมีส่วนผสมของสารกระตุ้นสมรรถภาพร่างกายที่โดนห้ามตามกฎหมาย) แต่ความเป็นจริงคือคนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาหรือไม่ใช่นักกีฬามีความเหมือนกันหนึ่งอย่างคือ ทุกคนได้รับโปรตีนด้วยปริมาณที่เพียงพอในอาหารปกติที่ทานระหว่างวันอยู่แล้ว การทานโปรตีนด้วยปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกายที่แนะนำต่อวันหลายเท่าก็แค่ให้โปรตีนกับร่างกายที่มากเกินกว่าที่ร่างกายจะรู้ว่าต้องทำอะไรกับมัน และจะเอามันไปทำอะไร ในเรื่องที่เกี่ยวกับการวิ่งเพื่อสร้างระบบฮอร์โมนจะมีการอธิบายถึงการทานโปรตีนที่มีผลต่อการกระตุ้นสภาวะการสร้างเนื้อเยื่อมากขึ้น ทำให้มีภาวะฟื้นตัวที่เร็วขึ้น และการปรับตัวของร่างกายดีขึ้น แต่มันก็ยังคงห่างไกลจากการฝังร่างกายของเพื่อนๆให้จมลงไปในผงโปรตีนเพียงอย่างเดียว แล้วหวังว่าจะได้เป็นแชมป์ นักวิ่งส่วนใหญ่ควรนึกถึงปัจจัยเหล่านี้ไว้ในใจ อาหารเสริมโปรตีนมีราคาแพง ในโลกนี้ไม่มีอาหารสำเร็จรูปที่ทดแทนสารอาหารทุกอย่างได้ ผงโปรตีนมักมีส่วนผสมปลอมและเพิ่มน้ำตาลเข้าไปมากเกินจำเป็น ในปี 2010 การศึกษารายงานจากลูกค้า พบว่า 20% ของอาหารเสริมที่ให้ทานมีส่วนผสมของโลหะหนัก เช่น อาร์ซีนิก แคดเมียม สารตะกั่ว และปรอท ในปริมาณที่มากเกินกว่าแนวทางแนะนำขององค์การยาแห่งสหรัฐอเมริกา… Continue Reading “ผงโปรตีน มหัศจรรย์แห่งการเขย่า หรือแค่การตลาดกันแน่”

การสร้างร่างกายนักวิ่งจากโปรตีน

โปรตีนได้ถูกเรียกว่าเป็น “ก้อนอิฐสร้างชีวิต” ด้วยเหตุผลที่ดี นั่นคือ โปรตีนเป็นส่วนประกอบในทุกเซลล์ของร่างกาย เป็นส่วนประกอบหลักของกล้ามเนื้อ ผิวหนัง อวัยวะ และต่อมต่างๆ และมีบทบาทในเรื่องของการเจริญเติบโต การย่อยอาหาร การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน การส่งข้อความของระบบฮอร์โมน และอีกมากมายในเรื่องของการทำงานของร่างกาย  สำหรับนักวิ่งแล้ว โปรตีนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และการฟื้นตัวหลังการฝึกซ้อม International Society of Sport Nutrition ได้เตือนว่า “การทานโปรตีนไม่เพียงพอสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการบาดเจ็บในขณะฝึกซ้อมได้” เมื่อโปรตีนอยู่ในรูปเอนไซม์ สามารถกระตุ้นการสร้างพลังงานทั้งแบบใช้และไม่ใช้ออกซิเจนได้ เมื่อโปรตีนอยู่ในรูป MCT มันจะช่วยในการสับเปลี่ยนอิออนแลคเตทและไฮโดรเจนออกจากเซลล์ระหว่างการวิ่งที่หนักหน่วงได้ และถ้าอยู่ในรูปฮีโมโกลบิน มันจะช่วยนำส่งออกซิเจนไปให้กับเซลล์เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ได้ คาร์โบไฮเดรต และไขมัน อาจเติมเชื้อเพลิงให้เพื่อนๆขณะ แต่มันคือโปรตีนที่ช่วยให้เครื่องยนต์เหล่านั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถทำงานได้ดี กรดอะมิโนคืออะไร ตัวกรดอะมิโนคืออิฐนั่นเอง อิฐที่รวมกันแล้วสร้างเป็นโปรตีน มันคืออิฐไว้สร้างโปรตีน และเป็นโปรตีนที่สร้างร่างกายอีกทีหนึ่ง โดยทางการแล้ว กรดอะมิโนคือกลุ่มของโมเลกุลอินทรีย์ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มกรดอะมิโนพื้นฐาน กลุ่มอะซิดิกคาร์บอกซิล และกลุ่มสารอินทรีย์อาร์ (หรือโซ่ข้างเคียง) ที่ทำให้กรดอะมิโนแต่ละกลุ่มมีความจำเพาะเจาะจง ยิ่งอธิบายอาจจะยิ่งงง เอาเป็นว่าเพื่อนๆอาจจะนึกถึงโปรตีนว่าเป็นเหมือนชิ้นตัวต่อเลโกก็ได้ ตัวต่อแต่ละชิ้นที่มาต่อกันสามารถทำให้เกิดเป็นโปรตีนมากกว่าห้าสิบชนิด The US National Library of Medicine ได้ระบุถึงกรดอะมิโน 21 ชนิดที่ร่างกายใช้ในการสร้างโปรตีน ร่างกายของเพื่อนๆสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้เพียง 12 ชนิด และอีก 9 ชนิด สามารถรับได้จากอาหารที่ทานเข้าไป เพราะเหตุนี้ โปรตีน 9 ชนิดนั้นจึงเรียกว่ากรดอะมิโนจำเป็น เพราะว่าต้องรับประทานอาหารเข้าไป แต่ก็ไม่เหมือนกับคาร์โบไฮเดรตและไขมัน ร่างกายสามารถเก็บสะสมกรดอะมิโนไว้ใช้ในอนาคต ดังนั้นเพื่อนๆคงต้องกำหนดในมื้ออาหารปกติทุกวันให้ทานกรดอะมิโนจำเป็นให้ครบ แต่อย่างไรก็ตาม อย่าตกใจไปนะคะ เพราะอาหารเกือบทุกอย่างในชีวิตประจำวันที่เพื่อนๆทานกันอยู่ถือว่ามีกรดอะมิโนที่จำเป็นเพียงพอแล้ว ขอแค่อย่าอดอาหารก็พอ กรดอะมิโนแบ่งเป็น 3 ชนิด กรดอะมิโนจำเป็น(Essential amino acids): ร่างกายเพื่อนๆไม่สามารถสร้างโปรตีนชนิดนี้ได้เอง โปรตีนชนิดนี้ คือ ฮิสทิดีน (Histidine), ไอโซลิวซีน (Isoleucine), ลิวซีน (Leucine), ไลซีน (Lysine), เมไทโอนีน (Methionine), ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine), ทรีโอนีน (Threonine), ทริพโตเฟน (Tryptophan) และวาลีน (Valine) กรดอะมิโนไม่จำเป็น(Nonessential amino acids): ร่างกายเพื่อนๆสามารถสร้างขึ้นมาได้เอง คือ แอลานีน (Alanine), แอสพาราจีน (Asparagine), กรดแอสพาร์ติก… Continue Reading “การสร้างร่างกายนักวิ่งจากโปรตีน”

เรื่องของน้ำสำหรับนักวิ่ง

แม้โดยทั่วไปเราจะแบ่งร่างกายของเราออกเป็นโครงสร้างส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ เป็นน้ำ และส่วนที่ไม่เป็นกล้ามเนื้อ แต่ “น้ำ” ถือว่ามีความสำคัญที่สุดสำหรับปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ รวมไปถึงการสร้างพลังงานเพื่อให้กล้ามเนื้อใช้ในการหดตัวด้วย เมื่อเพื่อนๆสูญเสียน้ำจากการหลั่งเหงื่อ มันมีผลที่ตามมาเสมอ นั่นก็คือ ปริมาตรเลือดลดลง และเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หากเพื่อนๆไม่ดื่มน้ำทดแทนให้เพียงพอ จะทำให้ปริมาตรเลือดที่หัวใจบีบออกจากหัวใจ 1 ครั้ง (Stroke volume) ลดลง ส่งผลไปถึงปริมาตรเลือดที่หัวใจบีบออกไปได้ใน 1 นาที (Cardiac output) ลดลง การนำส่งออกซิเจนจึงลดลง สมรรถภาพการวิ่งจะเริ่มลดลงเมื่อน้ำหนักตัวลดลงจากการเสียน้ำ 2 – 3% ของน้ำหนักตัวก่อนวิ่ง การที่ร่างกายมีน้ำน้อยเกินไป เรียกว่า Dehydration หรือภาวะร่างกายขาดน้ำ และถ้าร่างกายมีน้ำมากเกินไป เรียกว่า Hyponatremia โชคดีที่เราสามารถทดสอบสภาวะน้ำในร่างกายได้อย่างง่ายๆ 2 วิธี สีและปริมาณของปัสสาวะ ปัสสาวะควรมีสีใสและเหลวแสดงว่าน้ำในร่างกายยังเพียงพอ หากปัสสาวะเป็นสีเข้ม… Continue Reading “เรื่องของน้ำสำหรับนักวิ่ง”

การสร้างพลังงานวิ่งจากคาร์โบไฮเดรต – นักวิ่งต้องการคาร์โบไฮเดรตมากเท่าไร

เพื่อนๆหลายคนคงสงสัยแล้วใช่ไหมคะว่า นักวิ่งต้องการคาร์โบไฮเดรตมากเท่าไร สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้กล่าวว่าปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องเติมเข้าไปใน 1 วันควรประกอบด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน โดยที่ 45-65% มาจากคาร์โบไฮเดรต 10-35% มาจากโปรตีน และ 20-35% มาจากไขมัน ดังนั้นหากต้องทาน 2,000 แคลอรี่ใน 1 วัน หมายความว่าเพื่อนๆต้องทานคาร์โบไฮเดรต 225-325 กรัมต่อวันเลยล่ะค่ะ เป็นที่แน่นอนว่า นักกีฬาต้องการคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนมากกว่าคนอื่นที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ศูนย์ศึกษาโภชนาการและการกำหนดอาหาร (Academy of Nutrition and Dietetics) ได้แนะนำว่านักกีฬาที่ต้องใช้ความทนทานต้องทานคาร์โบไฮเดรต 2.3 – 5.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ (0.45 กิโลกรัม) ซึ่งเป็นตัวเลขที่กว้างมาก และทำให้เป็นค่าที่ต่างกันมากสำหรับนักวิ่งที่วิ่ง 20 กิโลเมตรต่อสัปดาห์… Continue Reading “การสร้างพลังงานวิ่งจากคาร์โบไฮเดรต – นักวิ่งต้องการคาร์โบไฮเดรตมากเท่าไร”

การสร้างพลังงานวิ่งจากคาร์โบไฮเดรต – ดัชนีน้ำตาล และไกลซีมิกโหลด

หัวข้อนี้เรามาทำความรู้จักกับ ดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index: GI) และไกลซีมิกโหลด (Glycemic Load:GL) กันค่ะ ร่างกายของเพื่อนๆเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นกลูโคส ซึ่งต่อมาได้ซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดและเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อระดับน้ำตาลสูงขึ้น ตับอ่อนจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อเซลล์กล้ามเนื้อและตับเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการนำไปเก็บในรูปของไกลโคเจน เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดตกลง การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินจะลดลง และเมื่อระดับน้ำตาลตกลงถึงระดับหนึ่ง ตับอ่อนจะหลั่งฮอร์โมนกลูคากอนออกมา เพื่อกระตุ้นการแปลงไกลโคเจนจากตับกลับมาเป็นกลูโคส และปล่อยออกสู่กระแสเลือดเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้อีกครั้งหนึ่ง ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีความผันผวนของระดับน้ำตาลในกระแสเลือดเป็นระยะเวลานาน ความไม่สมดุลของระดับกลูโคส อินซูลิน และกลูคอกอนสามารถนำไปสู่โรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ และโรคอื่นๆ ได้ เร็วๆนี้ชาวอเมริกันจำนวน 17 ล้านคนมีภาวะดื้อต่ออินซูลินและอีกล้านคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน วิธีการที่จะลดความเสี่ยงโรคที่เกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลยังมีอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น คาร์โบไฮเดรตจากธรรมชาติ ดังที่พบในผลไม้ ผัก พืชตระกูลถั่ว ธัญพืช และอื่นๆ จะซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดช้ากว่าคาร์โบไฮเดรตจากอาหารแปรรูป ทำให้การพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของฮอร์โมนอินซูลิน และระดับน้ำตาลเกิดขึ้นอย่างนุ่มนวลกว่า นี่คือจุดที่ดัชนีน้ำตาลเข้ามามีบทบาทค่ะ… Continue Reading “การสร้างพลังงานวิ่งจากคาร์โบไฮเดรต – ดัชนีน้ำตาล และไกลซีมิกโหลด”

การสร้างพลังงานวิ่งจากคาร์โบไฮเดรต – คาร์โบไฮเดรตคืออะไร

การสร้างพลังงานวิ่งจากคาร์โบไฮเดรต – คาร์โบไฮเดรตคืออะไร ความต้องการพลังงานของนกฮัมมิ่งเบิร์ธนั้นมากขนาดที่อาจทำให้มันขาดอาหารตายได้จากการเผาผลาญจนหมดจากร่างกายอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ถ้านกฮัมมิ่งเบิร์ธเลือกที่จะทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตน้อย และมีโปรตีนมาก เพื่อนๆอาจจะพบว่าตัวเองต้องหลบหลีกนกฮัมมิ่งเบิร์ธตายที่ตกลงมาจากท้องฟ้า โชคดีที่นกฮัมมิ่งเบิร์ธมีประสาทสัมผัสที่ดีกว่านั้นมาก และเพื่อนๆก็ควรเป็นเช่นนั้นด้วย สำหรับนักวิ่งแล้ว คาร์โบไฮเดรตมีความสำคัญมากค่ะ คาร์โบไฮเดรตคืออะไร? คาร์โบไฮเดรตมีอีกชื่อหนึ่งว่าแซ็กคาไรด์ (Saccharides) เป็นหนึ่งในสารอาหารหลัก 3 ชนิดที่เป็นพลังงานให้กับร่างกายของเรา (อีก 2 ชนิดคือโปรตีนและไขมัน) โมเลกุลที่สำคัญของคาร์โบไฮเดรตคือโมเลกุลน้ำตาล ซึ่งเป็นการรวมกันของธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน เลยทำให้ได้ชื่อว่าคาร์โบไฮเดรต เราสามารถพบคาร์โบไฮเดรตในอาหารหลากหลายชนิดมาก ทั้งถั่ว ผลไม้ ข้าวโพด มันฝรั่ง คุ้กกี้ พาสต้า พาย หรืออื่นๆอีกมากมายที่ไม่มีส่วนผสมของโปรตีนหรือไขมัน คาร์โบไฮเดรตมีหลากหลายรูปแบบให้เรารู้จัก ซึ่งรูปแบบที่พบโดยส่วนใหญ่คือแป้งและเส้นใยอาหาร (บางชนิดประกอบด้วยน้ำตาลจำนวนร้อยๆโมเลกุล และบางครั้งก็มากถึงพันโมเลกุล) คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกายนักวิ่ง คงจะไม่ได้พูดเกินจริงไปว่า ถ้าขาดคาร์โบไฮเดรตไปเสียแล้ว เพื่อนๆจะไม่มีแรงวิ่ง และอาจต้องนอนสลบอยู่บนโซฟากันทั้งวันเลยทีเดียวค่ะ เพื่อที่จะทำความเข้าใจคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น… Continue Reading “การสร้างพลังงานวิ่งจากคาร์โบไฮเดรต – คาร์โบไฮเดรตคืออะไร”

การดื่มคาร์โบไฮเดรตและบ้วนทิ้งนั้นเป็นวิธีโหลดคาร์โบไฮเดรตวิธีใหม่หรือไม่?

สำหรับพวกเราโดยส่วนใหญ่ วลีที่ว่า “ใจอยู่เหนือทุกสิ่ง” นั้น อาจทำให้นึกถึงภาพของนักโยคะชาวอินเดียที่ตัวลอยขึ้นได้ระหว่างการทำสมาธิระดับลึก หรือโทนี่ รอบบินส์ (Tony Robbins) เดินเท้าเปล่าบนถ่านร้อนๆ หรือยูริ เกลเลอร์ (Uri Geller) งอช้อนได้ด้วยพลังจิต เทคนิคเก่าๆเหล่านี้ เราเลิกสนใจไปแล้ว เพราะไม่อาจควบคุมอะไรได้ ดังนั้น เมื่อมีใครสักคนอ้างว่าการดื่มคาร์โบไฮเดรตและบ้วนทิ้งหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนแล้วบ้วนทิ้งสามารถเพิ่มสมรรถนะการวิ่งได้ มันดูเหมือนกับว่าไม่สมเหตุผลที่จะถือว่าเป็นเทคนิคที่ดีได้ นอกเสียจากว่า กรณีนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ การศึกษาในปี 2004 พบว่านักปั่นจักรยานที่กลั้วปากด้วยเครื่องดื่มเกลือแร่เป็นเวลา 5 วินาที แล้วจึงบ้วนทิ้งก่อนการปั่นจักรยาน สามารถปั่นจักรยานโดยจับเวลาจบ 40 กิโลเมตรได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้กลั้วปากด้วยเครื่องดื่มเกลือแร่ และการศึกษาในปี 2009 ที่ตามมาได้ระบุว่ามีการเพิ่มสมรรถนะได้ 3% และเพิ่มการสร้างภาพของสมองถึงผลการกระตุ้นหลังการทานเครื่องดื่มเกลือแร่ว่า ส่งผลทำให้สมองรู้สึกว่าได้รับรางวัล และสมองจะควบคุมระบบประสาทสั่งการได้ดีขึ้น สุดท้าย นักวิทยาศาสตร์ได้มีการพิสูจน์ว่ายิ่งทำมากยิ่งดีการศึกษาในปี 2013 แสดงให้เห็นว่าการกลั้วปากเป็นเวลา 10 วินาทีสามารถนำไปสู่สมรรถนะที่ดีขึ้นได้ค่ะ ประเด็นหลักของเรื่องนี้คือ สมองของนักปั่นจักรยานสามารถบอกถึงความแตกต่างระหว่างคาร์โบไฮเดรตจริงกับปลอม(กลุ่มที่ไม่ได้กลั้วปาก หรือกลั้วอย่างอื่น) ได้ แค่เพียงการรับความรู้สึกคาร์โบไฮเดรตทางปากก็เพียงพอแล้วสำหรับสมองที่จะเพิ่มการกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ การพัฒนาสมรรถนะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องถึงแม้ว่าจะหยุดทานคาร์โบไฮเดรตไปแล้วดังนั้น การหยุดทานคาร์โบไฮเดรตจึงไม่ใช่ปัจจัยของการปั่นจักรยานได้ถึง 40 กิโลเมตร อีกนัยหนึ่ง สมองของนักปั่นจักรยานได้เตรียมการณ์ล่วงหน้าถึงการหยุดทานคาร์โบไฮเดรต ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นจริง ดังนั้นจึงให้รางวัลแด่คำสัญญาที่ว่าจะได้รับคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นอีกโดยให้อิสระกับนักปั่นจักรยานให้ปั่นได้หนักขึ้นค่ะ การศึกษาในปี 2013 โดยนักเขียนหลากหลายประเทศ นำโดย ซี. มาร์ติน บีเวน (C. Martyn Beaven) ได้สร้างผลการวิจัยที่คล้ายกันสำหรับทั้งเครื่องดื่มคาเฟอีน และการผสมกันทั้งเครื่องดื่มคาเฟอีนและเครื่องดื่มคาร์โบไฮเดรต การอัดเครื่องดื่มคาเฟอีนช่วยเพิ่มความสามารถในการวิ่งเร่งได้ การกลั้วเครื่องดื่มคาเฟอีนและคาร์โบไฮเดรตทำงานดีกว่าการดื่มเพียงเครื่องดื่มคาร์โบไฮเดรตเพียงอย่างเดียว สิ่งที่การศึกษาทั้งหมดที่กล่าวมานี้แสดงให้รู้คือ มีปัจจัยที่ส่งผลต่ออาการล้ามากไปกว่ากล้ามเนื้อที่หมดแรง ในกลุ่มที่ดื่มคาร์โบไฮเดรตและบ้วนทิ้ง สมองปรับเปลี่ยนสมรรถนะทันทีบนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าเพื่อนๆได้เติมพลังงานให้กับร่างกายเพื่ออนาคตอันใกล้นี้ค่ะ แต่ก่อนที่เพื่อนๆจะชักชวนผู้จัดการแข่งขันสำหรับการแข่งมินิมาราธอนครั้งต่อไป ให้จัดเตรียมกระโถนบ้วนน้ำลายที่จุดปล่อยตัว โปรดจำไว้ว่าการดื่มคาร์โบไฮเดรตและบ้วนทิ้งนั้นจะได้ผลต่อเมื่อเพื่อนๆมีไกลโคเจนในกล้ามเนื้อต่ำเท่านั้น ถ้าเพื่อนๆได้โหลดคาร์โบไฮเดรตไว้ล่วงหน้าแล้วการอัดเครื่องดื่มดังที่กล่าวมาแล้วไม่ได้มีผลมาก หรือไม่มีผลต่อสมรรถนะของเพื่อนๆเลยค่ะ ขอให้เพื่อนนักวิ่งมีคาร์โบไฮเดรตอย่างเพียงพอที่จะใช้วิ่งกันนะคะ

การโหลดคาร์โบไฮเดรตและไขมันในนักวิ่งได้ผลหรือไม่?

นักวิ่งมักจะมองหาวิธีการที่จะไปให้ถึงสมรรถนะสูงสุดของตนเอง บางคนหันไปโหลดคาร์โบไฮเดรตและไขมันเพียงให้แน่ใจว่าได้รับการเติมเชื้อเพลิงให้กับร่างกายอย่างเพียงพอ แต่จริงๆแล้วมันได้ผลหรือไม่คะ? คำตอบคือ ได้ผลแน่นอนที่สุดค่ะ แต่ยังคงมีเงื่อนไขเพียงเล็กน้อยนั่นก็คือ การโหลดคาร์โบไฮเดรตนั้นดีมากสำหรับการแข่งขันที่ใช้เวลามากกว่า 90 นาที  ส่วนการโหลดไขมันเหมาะสำหรับการวิ่งรายการที่มากกว่า 4 ชั่วโมง สำหรับการแข่งขันที่ใช้เวลาน้อยกว่านั้น จะช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไรค่ะ การโหลดคาร์โบไฮเดรตเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1960 เมื่อนักกีฬาค้นพบว่าการหยุดทานคาร์โบไฮเดรต 3 – 4 วัน แล้วตามด้วยการการทานคาร์โบไฮเดรตอีก 3 – 4 วัน จะช่วยเพิ่มการเก็บไกลโคเจนเข้ากล้ามเนื้อสองเท่า ซึ่งนำไปสู่การลดอาการล้าระหว่างการแข่งขันที่ต้องใช้เวลานานมาก แต่โชคร้ายนิดหน่อยที่คาร์โบไฮเดรตสามารถนำไปสู่อาการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหารได้ ดังนั้น นักกีฬาจึงพยายามมองหาทางที่ดีกว่า จนมาถึงช่วงปีทศวรรษ 1980 นักกีฬาค้นพบว่าการลดช่วงเวลาการซ้อมลงเป็นเวลา 3 วันร่วมกับการเพิ่มการทานคาร์โบไฮเดรตได้ผลเหมือนกับวิธีการเดิมที่ต้องใช้เวลา 7 – 8 วัน และไม่มีผลข้างเคียงใดๆด้วย ในปี 2002 การศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งเวสเทิร์นออสเตรเลีย (University of Western Australia) ได้แสดงให้เห็นว่านักปั่นจักรยานที่ปั่นจักรยานอย่างหนักเป็นเวลา 2 นาทีครึ่ง แล้วจึงปั่นพักต่อไปอีก 30 วินาที แล้วค่อยทานคาร์โบไฮเดรตมากขึ้นถึง 80% จากปริมาณปกติ พบว่า สามารถเพิ่มการเก็บไกลโคเจนได้ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงต่อมา และการศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งโรงเรียนวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวมินนิโซตา (University of Minnesota School of Kinesiology) ได้ค้นพบว่าการทานคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้าการแข่งขันสามารถลดเวลาการแข่งขันมาราธอนได้ 4% ค่ะ เราอาจจะพูดได้ว่า การเพิ่มการทานคาร์โบไฮเดรตสามารถเพิ่มน้ำหนักให้เพื่อนๆได้เกือบ 2 กิโลกรัม และอาจจะไปยับยั้งการเผาผลาญไขมัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้หญิงแน่ๆ และในฐานะของการศึกษากลยุทธ์การแข่งขันก็ถือเป็นเรื่องที่ล้าสมัย ดังนั้นจึงมีบริษัทผลิตเครื่องดื่มเกลือแร่ เจลเกลือแร่ และผลิตภัณฑ์การทดแทนไกลโคเจนอื่นๆ ออกมามากมาย และสร้างกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือนักกีฬาให้แน่ใจว่าระดับไกลโคเจนเพียงพอต่อความต้องการ สรุปแล้ว นับว่าเป็นความคิดที่ดีที่จะเพิ่มคาร์โบไฮเดรต 70% จากปริมาณแคลอรี่ทั้งหมดเป็นเวลา 3 วันก่อนการแข่งขัน และควรทำร่วมกับการลดการฝึกซ้อมลงด้วยนะคะ ต่อไปเราจะพูดถึงการทานไขมันเพิ่มขึ้นกันบ้าง การทานไขมันเพิ่มขึ้นช่วยเพิ่มสมรรถนะให้ดีขึ้นได้ แต่ต้องใช้กับการแข่งขันระยะทางไกลที่ใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์การออกกำลังกายนามว่า ด็อกเตอร์ทิโมที โนส์ค (Dr.Timothy Noakes) ได้ประมาณไว้ว่านักกีฬาไตรกีฬาคนเหล็กระดับแนวหน้าเผาผลาญไขมันในอัตราเร็วที่มากกว่าปกติถึง 50% หลังจากที่มีช่วงการทานไขมันเพิ่มขึ้นค่ะ วิธีการทานไขมันเพิ่มขึ้นมี 2 วิธีที่ดี คือ การทานอาหารที่มีไขมันสูง:ให้ทานอาหารไขมันสูงติดต่อกันเป็นเวลา 7 – 10 วันก่อนการแข่งขัน ร่างกายของเพื่อนๆจะเรียนรู้การทำงานที่ระดับไกลโคเจนต่ำๆได้ และหยุดการโหลดคาร์โบไฮเดรตไปเองโดยอัตโนมัติ การหยุดทานคาร์โบไฮเดรต:การฝึกซ้อมหลังจากการอดอาหาร หรือลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลงก่อนการฝึกซ้อม ซึ่งจะช่วยสอนร่างกายของเพื่อนๆให้เผาผลาญไขมันในขณะวิ่งให้มากขึ้น ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ร่างกายจะนำมาใช้เมื่อร่างกายเหนื่อยจนเกือบจะไม่ไหวแล้ว พูดง่ายๆว่า นี่คือวิธีการของการโหลดไขมัน โดยการใช้ไขมันในร่างกายที่เพื่อนๆเก็บอยู่มาใช้นั่นเอง ขอให้เพื่อนนักวิ่งเลือกการโหลดคาร์โบไฮเดรต หรือโหลดไขมันได้ถูกต้องกันนะคะ